เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2563 จากกรณีที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 โดยตอนหนึ่งระบุว่า อาจต้องจำกัดไม่ให้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในเขตเมือง ซึ่งเป็นมาตรการที่ประเทศเกาหลีใต้บังคับใช้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนโลกออนไลน์มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด โดยความเห็นจำนวนมากกล่าวว่าหากทำจริงจะกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะระบบขนส่งมวลชนในประเทศไทย แม้แต่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไม่สะดวกและประหยัดเพียงพอ
ทั้งนี้ประเด็นการจำกัดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ถูกพูดถึงมาหลายครั้ง อาทิ ในปี 2556 ซึ่งกรุงเทพฯ ถูกจัดอันดับเป็นเมืองที่มีปัญหาการจราจรติดขัดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ในขณะนั้น) เสนอมาตรการห้ามรถเก่าอายุ 7 - 10 ปีขึ้นไปวิ่งใน กทม. , ในปี 2561 นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เสนอห้ามจอดรถริมถนนช่วงเวลา 06.00 - 21.00 น. รวมถึงอาจต้องให้ใช้รถสลับทะเบียนเลขคู่-เลขคี่ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5
รวมถึงในปี 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งเป็นผู้นำรัฐบาลทหาร โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เสนอมาตรการให้ใช้รถยนต์สลับวันคี่-วันคู่ ห้ามรถเครื่องยนต์ดีเซลวิ่งบนถนนบางเส้น รวมถึงห้ามใช้รถยนต์โดยมีคนอยู่ในรถเพียงคนเดียว เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 แต่ทุกครั้งก็จะมีกระแสต่อต้านอย่างกว้างขวางจากประชาชน จนไม่ว่าตำรวจ นักวิชาการหรือรัฐบาลก็ต้องยอมถอยเสียทุกครั้งไป
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ... 'วราวุธ'เผยรัฐบาลเตรียมออกยาแรงคุม'ฝุ่นพิษ' ถามปชช.รับได้หรือไม่
... ส่องบทเพลงสะท้อน'รถยนต์บอกชนชั้น' หนึ่งปมสำคัญ'คนไทยค้านมาตรการลดใช้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี