ศาลรับฟ้อง‘ผกก.สส.จชต.ภ.9’ ฟ้อง‘บิ๊กโจ๊ก’ข้อหาเบิกความเท็จ
31 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ศาลอาญานัดฟังคำสั่ง คดีหมายเลขดำที่ 2699/2552 พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.จชต. บช.ภ.9 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาสำนักนายรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ
โจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์ความผิด สรุปว่า เมื่อวันที่ 12 กรกฏาคม 2554 จำเลยกระทำผิดอาญาโดยเจตนานำคดีอาญามาฟ้องโจทก์อันเป็นเท็จต่อศาลอาญา ในข้อหาหรือฐานความผิด ร่วมกันก่อ , ใช้ สั่งการ ก่อ ใช้ ขู่เข็ญ จ้างวาน หรือยุยงส่งเสริม หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
จำเลยได้บรรยายฟ้องกล่าวหาว่าโจทก์กับพวก 12 คน (โจทก์เป็นจำเลยที่ 11) ได้ร่วมกัน สมคบกัน สั่งการ ก่อ ใช้ ขู่เข็ญ จ้างวาน หรือยุยงส่งเสริม หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใด ได้บังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมาย เรียกรับเงินส่วยจากร้านคาราโอเกะ และซ่อนเร้นและให้ความช่วยเหลือ นายเขตสยาม เนาวรังสี จำเลยตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม และจำเลยยังพูดจาใส่ร้ายโจทก์ ต่อบุคคลที่สาม โดยบอกกับ นายเขตสยาม เนาวรังสี ว่าจะถูกโจทก์อุ้มไปฆ่าจากการให้ข้อมูลกล่าวหาโจทก์ อันเป็นหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ ทำให้ผู้อื่นรู้สึกหวาดกลัว ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง มองโจทก์เป็นคนไม่ดี เป็นคนชั่ว
ทั้งที่ความจริง นายเขตสยาม เนาวรังสี ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผบ.ตร.เอง เนื่องจากนายเขตสยาม เป็นเจ้าของหรือผู้ดูแลร้านคาราโอเกะ ชื่อร้านโบว์ลิ่งเบียร์โดยมีหลักฐานว่าเคยถูกจับกุมดำเนินคดีที่ สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 และเคยเบิกความที่ศาลจังหวัดนครพนม ในคดีจำเลยได้ฟ้องดำเนินคดีอาญากับนายเขตสยาม ข้อหาหมิ่นประมาทว่า เป็นผู้ประกอบการร้านคาราโอเกะดังกล่าวจริงและเป็นผู้ร้องเรียน
การร้องเรียนไปยังผบ.ตร.และ ผบช.ก.และได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม จ.นครพนมนั้น เนื่องจากนายเขตสยามได้รับความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจริง โดยโจทก์ไม่มีส่วนสมรู้ร่วมคิดกับนายเขตสยามแต่อย่างใด และเป็นสิทธิของนายเขตสยามโดยชอบธรรมที่จะร้องขอความเป็นธรรมเมื่อได้รับความเดือดร้อนต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบเพื่อจะได้แก้ไขปัญหาความเดือดจากกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ ซึ่งนายเขตสยาม ได้โทรศัพท์มาหาโจทก์ ภายหลังที่นายเขตสยาม เนาวรังสี ได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนถึง ผบ.ตร. และ ผบช.ก.ด้วยตนเองแล้ว
โจทก์กับนายเขตสยาม เนาวรังสี ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยนายเขตสยามแจ้งว่า ได้รับคำแนะนำจาก ด.ต.สิทธิศักดิ์ หรือดาบโจ เสียงเย็น ซึ่งรับราชการอยู่ที่เดียวกันคือ ก.ก.3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.)ให้มาปรึกษาตนถึงเหตุการณ์ที่ได้ไปร้องเรียน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล (ยศขณะนั้น)จำเลย เนื่องจากไม่พอใจที่พูดจาไม่ดีและเรียกเก็บส่วยเพิ่มขึ้นทุกเดือน อีกทั้งได้เล่ารายละเอียดให้ฟังว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขู่ทำร้าย ทำให้นายเขตสยามหวาดกลัว
เมื่อโจทก์ได้รับรู้เรื่องราวของนายเขตสยาม ซึ่งเห็นว่า โจทก์เป็นข้าราชการตำรวจ รับผิดชอบภารกิจป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่เกิดเหตุ มีหน้าที่ต้องให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของข้าราชตำรวจผู้ที่ตนไปร้องเรียนกล่าวหาว่า ประพฤติปฏิบัติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จึงแนะนำว่า หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ให้ระมัดระวังตัวอาจเกิดอันตรายได้ ซึ่งเป็นการแนะนำโดยทั่วไปตามวิสัยของ วิญญูชนที่ได้รับทราบเรื่องราวแล้วเกิดความเป็นห่วงเป็นใยกันเท่านั้น ไม่เคยพูดคุยเรื่องอื่น
หลังจากนั้นโจทก์ได้สอบถามจาก ด.ต.สิทธิศักดิ์ หรือดาบโจ เสียงเย็น ก็ได้รับแจ้งจาก ด.ต.สิทธิศักดิ์ว่าเป็นความจริง
ส่วนที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จำเลย ระบุในคำฟ้องว่า โจทก์ ปกปิด ซ่อนเร้นและให้ความช่วยเหลือนายเขตสยามให้หลบหนีไป สปป.ลาวนั้นก็ไม่เป็นความจริงจำเลย และโจทก์ไม่เคยเดินทางไปประเทศลาวหรือให้ความช่วยเหลือนายเขตสยามเลย จนทำให้ สตช. ได้รับความเสียหาย
การที่จำเลยยื่นฟ้องโจทก์ด้วยเอกสารอันเป็นเท็จ ฐานปฏิบัติหน้าที่อันมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เพื่อมุ่งหวังใส่ร้ายกลั่นแกล้งโจทก์ ให้ถูกดำเนินคดีอาญา และทางวินัย ทำให้โจทก์ได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง เกียรติยศ ส่งผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าต่อตำแหน่งหน้าที่การงานในการรับราชการของโจทก์
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2555 จำเลยยังได้มีเจตนาเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้องต่อศาลอาญาหมายเลขคดีดำที่ อ.2826/2554อีกด้วย
โดยศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์กับพวก และคดีนี้ถึงที่สุดแล้ว
ศาลพิจารณาคำเบิกความและพยานหลักฐานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล จึงมีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา เเละนัดพร้อมสอบคำให้การ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จำเลย ในวันที่ 30 มีนาคม 2563 เวลา 13.30 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี