“สตม.” โดย “ตม.1” กางมาตรการดูแลนักท่องเที่ยว พร้อมตั้ง “วอร์รูม” คัดกรองเข้มคนต่างชาติติดต่อรับบริการในพื้นที่ กทม. ป้องกัน “ไวรัสโคโรนา”
7 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13.30 น. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ , พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ ปฏิบัติราชการ ผกก.สส.บก.ตม.1 ร่วมกันแถลงมาตรการเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 (บก.ตม.1)
สืบเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเดินหายใจเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนต่างด้าวสัญชาติจีนและคนต่างด้าวสัญชาติอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เดินทางจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี จึงได้กำหนดมาตรการและแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวให้หน่วยงานในสังกัดถือปฏิบัติ
กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เป็นหน่วยงานในสังกัดของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) และมีคนต่างด้าวสัญชาติต่างๆมาติดต่อใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงได้ทำการกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ขึ้น เพื่อให้สอดรับกับนโยบายและสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ดังนี้
1.จัดตั้งศูนย์บริหารเหตุการณ์ เฝ้าระวังและติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (War Room) เป็นศูนย์บริหารเหตุการณ์ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา มีหน้าที่ ติดตามสถานการณ์ของการแพร่ระบาดทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเฝ้าระวังข่าวการระบาดทางเว็บไซต์ต่างๆที่เป็นแหล่งข้อมูลทางการ หากเป็นข้อมูลสื่อสาธารณะ หรือข่าวสารทั่วไปที่อาจก่อให้เกิดความสับสน จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ในการรวบรวมสถิติคนต่างด้าวสัญชาติจีนที่มายื่นคำร้องขอรับบริการด้านตรวจคนเข้าเมืองที่ บก.ตม.1 พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลแล้วจัดทำรายงานพร้อมข้อเสนอรายงานให้ สตม.ทราบ และมีการประชุมทางไกลทุกวันในเวลา 09.00 น. ห้วงเวลาการปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2563 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สถานที่ตั้งกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 3 ฝั่งทิศใต้ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
2.มาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาของคนต่างด้าวที่มาติดต่อ ประกอบด้วย 2.1 ประสานแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อให้คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ในการสังเกตอาการ และคัดกรองเบื้องต้น เช่น การตรวจอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์ การสังเกตอาการเบื้องต้น 2.2 ประสานขอความร่วมจากโรงพยาบาลเอกชน จำนวน 6 แห่ง เพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการตรวจคัดกรองผู้มารับบริการ ประกอบด้วย โรงพยาบาลกรุงเทพ , โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ , โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท , โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ , โรงพยาบาลธนบุรี-บำรุงเมือง และโรงพยาบาลเวชธานี นอกจากนี้ให้ บก.ตม.1 ร่วมกับแพทย์ ตม.วางแนวทางในการเฝ้าระวัง โดยจัดระบบการเข้า-ออกที่ทำการ บก.ตม.1 ทางเดียว เพื่อประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังและคัดกรองผู้มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด
นอกจากนี้ให้จัดโซนคัดกรองบุคคล จำนวน 2 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 จุดตรวจคัดกรองผู้ป่วย มีหน้าที่หยดเจลล้างมือให้ผู้รับบริการทุกราย , วัดอุณหภูมิร่างกาย ทางหน้าผาก , แนะนำให้ผู้มารับบริการสวมใส่หน้ากากอนามัย (Mask) , ติดสติกเกอร์หลากสี ยกเว้นสีแดง เพื่อแสดงว่าเป็นผู้ที่ผ่านการตรวจคัดกรองแล้ว และอนุญาตให้เข้ารับการบริการได้ตามปกติ ,หากพบผู้รับบริการมีไข้มากกกว่า 37.5 องศาเซลเซียสเจ้าหน้าที่จะคัดแยกและส่งตัวมายังจุดคัดกรองที่ 2
ขั้นที่2 จุดคัดกรองเพื่อแยกกักผู้ต้องสงสัย มีหน้าที่ให้ผู้ต้องสงสัยป่วยใส่หน้ากากอนามัย , ผู้ต้องสงสัยป่วยที่ถูกคัดแยกมามาจากจุดที่ 1 วัดอุณหภูมิร่างกายทางหูซ้ำที่จุดที่ 2 , อุณหภูมิต่ำกว่า 37.5 องศาเซลเซียส เจ้าพนักงานจะติดสติกเกอร์สีแดงที่บริเวณหน้าอกข้างซ้ายและแจก Health Beware Card พร้อมกับแนะนำให้ไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลอีกครั้ง และอนุญาตให้เข้ารับบริการได้ตามปกติโดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มความระมัดระวังระหว่างให้บริการ , อุณหภูมิสูงกว่าหรือเท่ากับ 37.5 องศาเซลเซียส พยาบาลจะซักประวัติ ตามแบบสอบสวนโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
ทั้งนี้ ถ้ามีอาการไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก แพทย์ตรวจคนเข้าเมืองจะดำเนินการ ดังนี้ 1.ประสานกับทีมตระหนักรู้สถานการณ์(Situation Awareness Team: SAT) เพื่อนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล 2.พาผู้ต้องสงสัยว่าจะป่วยไปยังบริเวณห้องพักรอ และให้ใส่ Mask N95 3.แพทย์ ตม.และเจ้าหน้าที่จาก รพ.จะลงบันทึก ชื่อ - นามสกุล อายุ สัญชาติ หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ในประเทศไทยและสถานที่พำนักในประเทศเก็บไว้เพื่อติดตามอาการต่อไป แพทย์ ตม.หรือเจ้าหน้าที่จาก รพ. ส่งข้อมูลผู้ต้องสงสัยป่วยตามขั้นที่2 ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง1 ตรวจสอบข้อมูลบุคคลเบื้องต้น เช่น ประเทศที่พำนัก ประเทศต้นทางที่เดินทางมา ประเทศผู้ร่วมเดินทาง หรือผู้ติดตาม และรายงานให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ 4. จัดห้องพักรอ เพื่อแยกคนต่างด้าวที่มีอาการ
3.มาตรการในการดูป้องกันเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและสถานที่ โดย 3.1 ประสานกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอรับการสนับสนุนหน้ากากอนามัย และเจลทำความสะอาด 3.2 แนวทางการป้องกันสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ดังนี้ 3.2.1 กำชับให้ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในด้านงานบริการให้สวมหน้ากากอนามัย และทำความสะอาดมือด้วยเจลทำความสะอาดบ่อย ๆ 3.2.2 กำชับให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด ดูแลสุขลักษณะกินร้อน ช้อนกลาง 3.2.3 ประสานแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง ให้คำแนะนำการปฏิบัติตนและการดูแลตนเอง พร้อมทั้งให้สังเกตอาการผิดปกติ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคดังกล่าว 3.2.4 ในด้านสภาพสิ่งแวดล้อม ให้ทำความสะอาดบริเวณที่ทำการ และเคาน์เตอร์ให้บริการ ทุกวันทั้งก่อนทำงานและหลังเลิกงาน
4. การปฏิบัติเกี่ยวกับการบริการขออยู่ต่อในราชอาณาจักร
กรณีคนต่างด้าวสัญชาติจีนที่ไม่สามารถเดินทางกลับไปยังเมืองต้นทางดังกล่าวได้เนื่องจากสนามบินปิด หรือคนสัญชาติจีนที่ไม่ประสงค์จะเดินทางกลับเมืองอื่นของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเนื่องจากความกังวลผลกระทบจากสถานการณ์ ซึ่ง สตม.ได้ให้แนวทางการปฏิบัติ ตามมีหนังสือ สตม. ด่วนที่สุด ที่ 0029.161/ว 303 ลง 29 ม.ค.63 เรื่อง แนวทางปฏิบัติการอนุญาตให้คนต่างด้าวสัญชาติจีนอยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวในระหว่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโรคติดต่อทางเดินหายใจเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่
5. การติดตาม และตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยติดเชื้อในพื้นที่ความรับผิดชอบ
กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 จัดชุดปฏิบัติการไปติดตาม ตรวจสอบคนต่างด้าวสัญชาติจีนหรือสัญชาติอื่น ๆ ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งอาจมีอาการบ่งชี้ว่าติดเชื้อ และพำนักอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 โดยมีการประสานกับหน่วยแพทย์กลุ่มภารกิจด้านการปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข ไปร่วมตรวจสอบด้วย และทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเจ้าของที่พัก สถานประกอบการ ให้ช่วยสังเกตและดูแลคนต่างด้าวที่เข้าพักอาศัย หากพบว่ามีอาการน่าสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันที
สำหรับการดำเนินการมาตรการเชิงรุกในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี , พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. , พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ที่ให้เจ้าหน้าที่ ตม. บูรณาร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการลงพื้นที่รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวรับทราบการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งมีการระบาดหนักในขณะนี้
นอกจากนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังคงห่วงใยนักท่องเที่ยวที่อาจป่วยหรือจำเป็นต้องอยู่พักรักษาตัวเนื่องจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จึงมีมาตรการยกเว้นค่าปรับ overstay ให้กับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางกลับเมืองอู่ฮั่น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและไม่เป็นการสร้างภาระให้แก่นักท่องเที่ยว จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 และหากประชาชนต้องการติดต่อกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน สตม. 1178 หรือเว็บไซต์สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี