คุมตรวจเข้มเรือสำราญ
เทียบท่าภูเก็ต
ป้องกันเชื้อโควิด-19
อนุทินแจงคนละเงื่อนไข
ต่างจากกรณีเวสเตอร์ดัม
สธ.เล็งยกระดับคัดกรอง
คนจากฮ่องกง-สิงคโปร์
จีนดับ1.3พันติดเชื้อ6หมื่น
สธ.ยันตรวจคัดกรองเข้มผู้โดยสารบนเรือสำราญ 2 ลำ “SEABOURNOVATION” และ “Quantum of the Seas” เข้าเทียบท่าภูเก็ต “อนุทิน”แจงเหตุไฟเขียวเพราะไม่ใช่เรือกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 เป็นคนละเงื่อนไขกับเวสเตอร์ดัม ย้ำมาตรการตรวจสุขภาพเคร่งครัด วัดไข้ผู้โดยสารทุกคนทุกวัน ทุกครั้งที่ขึ้น-ลงเรือ
สธ.จ่อยกระดับคัดกรองคนมาจากฮ่องกง สิงคโปร์ที่มีการระบาดเพิ่มขึ้น พร้อมเปิดระบบคัดกรองสำหรับปชช.ทั่วไปผ่านระบบออนไลน์ 3 ภาษา ด้านจีนตายเพิ่มกว่า 1.3 พัน ติดเชื้อเกิน 6 หมื่นราย
ความคืบหน้าสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ไหม่ 2019 หรือชื่อใหม่อย่างเป็นทางการว่า “COVIC – 19” หรือ “โควิด – 19” ยังคงมีผู้ป่วยติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ตายพุ่ง1.3พัน-ติดเชื้อกว่า6หมื่น
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนว่า สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 จนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 242 คนในวันเดียว ที่มณฑลหูเป่ย์ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 1,355 คน ส่วนผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศจีนอยู่ที่ 60,332 คน เพิ่มขึ้นวันเดียวมากถึง 14,840 คน เฉพาะที่มณฑลหูเป่ย์ รักษาหายดีแล้ว 5,546 คน
ผู้นำจีนชี้ถือเป็นสงครามวงกว้าง
ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวถึงสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระหว่างประชุมสมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ หรือโปลิตบูโรว่า ยังถือเป็นสงครามวงกว้างและเป็นบททดสอบสำคัญของทุกฝ่าย แต่ชื่นชมความพยายามของหน่วยงานสาธารณสุข ซึ่งเข้มงวดและเด็ดขาดในการควบคุมโรค ส่งผลให้การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยใหม่ทรงตัว
ติดเชื้อเบนเรือสำราญเพิ่มอีก44
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น ถึงความคืบหน้าการกักบริเวณเรือสำราญ
ไดมอนด์ ปรินเซส ซึ่งเดินทางจากฮ่องกงไว้ที่ท่าเรือในเมืองโยโกฮามา เพื่อตรวจสุขภาพผู้โดยสาร 2,666 คน และเจ้าหน้าที่บนเรือ 1,045 คน หลังผู้โดยสารชายชาวฮ่องกงอายุ 80 ปี ซึ่งลงจากเรือไปก่อนหน้านั้น ล้มป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีกอย่างน้อย 44 คน ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยสะสมจากเรือสำราญลำดังกล่าวเพิ่มเป็นอย่างน้อย 218 คน จากผู้ซึ่งผ่านการตรวจโรคแล้ว 713 คน และในจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด ซึ่งได้รับการยืนยันแล้ว มีอย่างน้อย 5 คนอาการวิกฤติ ทั้งนี้ จะครบกำหนดกักบริเวณผุ้โดยสารบนเรือดังกล่าววันที่ 19 กุมภาพันธ์
โซเชียลห่วงเรือเข้าภูเก็ต2ลำ
ในส่วนประเทศไทย วันเดียวกัน มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์กรณีเรือสำราญ SEABOURN OVATION จากฮ่องกง กำหนดมาเมืองไทย และเข้าเทียบท่า ที่ท่าเรือน้ำลึกจ.ภูเก็ต เวลา 07.00 น.วันเดียวกันนี้ โดยหวั่นวิตกว่าบนเรืออาจมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา เรือ SEABOURN OVATION เข้าจอดเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อย และเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน เรือสำราญชื่อ Quantum of the Seas เส้นทางภูเก็ต ปีนัง สิงคโปร์ ภูเก็ต มีกำหนดมาเทียบท่าบริเวณชายหาดป่าตอง
แจงคนละเงื่อนไขเวสเตอร์ดัม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุขชี้แจงเรื่องนี้ว่า เรือสำราญที่มาจอดเทียบท่าเรือน้ำลึกในจ.ภูเก็ตนั้น เงื่อนไขคนละอย่างกับเรือสำราญ เวสเตอร์ดัม เพราะเวสเตอร์ดัมอยู่นอกเส้นทางเดินเรือ และมาขอเทียบท่า โดยไม่มีกำหนดผ่านประเทศไทย รวมถึงมีผู้โดยสารจีนอยู่ในเงื่อนไขเฝ้าระวังประมาณ 20 คน ขณะที่ SEABOURN OVATION เป็นเส้นทางเดินเรือปกติ ลูกเรือเป็นชาวยุโรป
ยันภูเก็ตมีระบบคัดกรองเข้มรับมือ
“ที่สำคัญความเข้มข้นการตรวจคัดกรองของจ.ภูเก็ตนั้นมีอยู่แล้ว และเตรียมพร้อมรับมือโรคนี้เต็มที่”นายอนุทินกล่าว และว่า วันที่ 14 และวันที่ 15 กุมภาพันธ์จะมีเรือสำราญเข้าเทียบท่าที่จ.ภูเก็ตอีก 2 ลำ โดยวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เวลา 12.30 น. เรือ “Celebrity Consteellation”เข้าจอดเทียบท่า ส่วนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เวลา 05.30 น. เป็นคิวของเรือชื่อ “STAR CLIPPER
แพทย์ตม.ภูเก็ตตรวจเข้มผู้โดยสาร
ด้านนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคมเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้จากกรมเจ้าท่าแล้วว่าเรือสำราญ Seabourn Ovationจะเข้าเทียบท่าที่ภูเก็ต และผู้โดยสารในเรือผ่านพื้นที่ที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่เจ้าหน้าที่ในเรือส่งรายงานสุขลักษณะของผู้โดยสารและ ลูกเรือผ่านแบบฟอร์ม ท1,2 และ3 พร้อมให้แพทย์ประจำเรือตอบแบบสอบถามเรื่องไวรัสโควิด – 19 ให้แพทย์ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตรับทราบไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ก่อนเรือมาถึง พร้อมระดมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำที่ท่าเรือเพื่อตรวจสอบอุณหภูมิของผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนก่อนออกไปท่องเที่ยวในจ.ภูเก็ต
ย้ำไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง-แวะแค่10ชม.
“ยืนยันว่าเรือดังกล่าวไม่ใช่เรือผู้โดยสารกลุ่มเสี่ยง แต่กรมเจ้าท่าร่วมกับจ.ภูเก็ตตรวจผู้โดยสารตามมาตรฐานขั้นตอนทุกประการ และจากประวัติการเดินเรือของ Seabourn Ovation ที่ผ่านมาได้รับการอนุญาตให้จอดเทียบท่าเรือทั้งใน ฮ่องกง เวียดนาม แหลมฉบัง เกาะกูด กัวลาลัมเปอร์ ลังกาวี มาตลอด รวมทั้งเส้นทางการเดินเรือเป็นเส้นทางปกติที่ได้กำหนดเส้นทางผ่านจังหวัดภูเก็ต มีกำหนดแวะพัก 10ชม.ไม่เหมือนเรือ เอ็มเอส เวสเตอร์ดัม ที่ถูกปฎิเสธการเข้าจอดเทียบท่าเรือในทุกเส้นทางการเดินเรือ นอกจากนั้นผู้โดยสารและลูกเรือของ Seabourn Ovation ลูกเรือและผู้โดยสารเป็นชาวยุโรปทั้งหมด ขณะที่ผู้โดยสารของเรือเวสเตอร์ดัม มีผู้โดยสารมีสัญชาติจีนและฮ่องกง”นายอธิรัฐกล่าว
หายป่วยอีก1-ยอดสะสม33ราย
วันเดียวกัน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ว่า วันนี้มีข่าวดี ผู้ป่วยยืนยันโรคไวรัสโควิด - 19 เป็นนักท่องเที่ยวชายชาวจีนอายุ 61 ปี รักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร หายป่วยเตรียมกลับบ้านอีก 1 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยรักษาหายรวม 12 คน เหลือนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 21 คน ยอดผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังอยู่ที่ 823 คน กลับบ้านแล้ว 673 คน ส่วนผู้ป่วยยืนยันรายอื่น อาการดีขึ้น มี 2 รายอาการหนักมาตั้งแต่รับมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ขณะนี้แพทย์ยังดูแลใกล้ชิด จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ ตัวเลขผู้ป่วยคงที่ 33 คน
ยกระดับคัดกรองผ่านออนไลน์
นพ.สุวรรณชัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขร่วมมือกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดทำแบบคัดกรองตนเองออนไลน์ สำหรับผู้สงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็น 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย จีน อังกฤษ เพื่อคลายความวิตกกังวลประชาชน โดยประชาชนสามารถเข้าไปตอบคำถามเพียง 4 ข้อ เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะติดโรคและดูคำแนะนำการปฏิบัติตัว ได้ที่ http://sescimande.net/Self-Screening/
สั่งรับมือเรือแวะเปลี่ยนเครื่อง
ส่วนปัญหาเรือสำราญเวสเตอร์ดัม ที่ขณะนี้ไปเทียบท่าที่สีหนุวิลล์ กัมพูชาแล้ว แต่ในการเดินทางกลับของนักท่องเที่ยวต้องใช้ท่าอากาศยานของไทยนั้น นพ.สุวรรณชัยเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขสั่งการให้เตรียมวางแผนรองรับ โดยประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำชับให้เจ้าหน้าที่ด่านทุกช่องทางเข้าออก ทั้งบก เรือ อากาศ เตรียมการกรณีผู้โดยสารจากเรือดังกล่าวมา เดินทางมาเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศไทย รวมทั้งประสานข้อมูลวางแผนดูแลคนไทยที่อยู่บนเรือ
โดยเฉพาะประสานทางการกัมพูชา ให้ได้ข้อมูลและร่วมกันคัดกรอง
อย่าตื่นคุมเข้มเรือสำราญภูเก็ต
สำหรับเรือสำราญ ซีบอร์นโอเวชั่น ที่เทียบท่าที่จ.ภูเก็ตนั้น นพ.สุรรณชัยกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบ เป็นการเดินทางตามโปรแกรม มาไทยแค่พักเพียง 10 ชั่วโมง จากนั้นเดินทางต่อ ผู้ที่เดินทางลงจากเรือและก่อนขึ้นเรือต้องได้รับ ตรวจวัดไข้ก่อนขึ้นลงทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคจากกระทรวงสาธารณสุข ขึ้นไปประเมินสุขอนามัยบนเรือ ตรวจสอบข้อมูลสุขภาพของผู้โดยสารและลูกเรือ ร่วมกับแพทย์ประจำเรือ ผลตรวจไม่มีผู้มีอาการเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค (PUI) และก่อนลงมาจากเรือแพทย์ประจำเรือจะวัดไข้ซ้ำ และเมื่อลงจากเรือแล้วจะมีทีมแพทย์กระทรวงสาธารณสุขและกองทัพเรือวัดไข้ซ้ำอีกครั้ง เป็นไปตามมาตรฐานสากล ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะผู้โดยสารกลุ่มนี้ไม่ใช่ผู้ป่วย และเรือลำนี้มาแวะพักตามเส้นทางเดินเรือปกติ โดยแจ้งการเข้าออกประเทศถูกต้อง
สธ.เฝ้าระวัง6จว.ผู้ป่วยปอดอักเสบ
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า มีผู้เชี่ยวชาญจาก สธ.ประกาศเฝ้าระวัง สถานการณ์ ในประเทศ สิงคโปร์ และฮ่องกง เพราะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ได้มีข้อสั่งการให้เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ ใน 6จังหวัด ได้แก่ กทม.เชียงใหม่ เชียงราย ชลบุรี กระบี่ และจ.ภูเก็ต
จ่อเข้มคัดกรองคนฮ่องกง-สิงคโปร์
นพ.ธนรักษ์ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลสถานการณ์การระบาดในทั่วโลกพบว่า ตัวเลขผู้ป่วยของจีนเพิ่มเช่นเดียวกันในฮ่องกง และสิงคโปร์ ทำให้การเฝ้าระวังของไทย ต้องพิจารณาเพิ่ม และมีแนวคิดในเร็วๆนี้ เตรียมประกาศยกระดับคัดกรองผู้เดินทางมาจากกลุ่มประเทศเหล่านี้ที่สนามบิน เนื่องจากพบสถานการณ์ระบาดในประเทศเพิ่มขึ้น เพราะขณะนี้หลายประเทศเข้าสู่การระบาดเฟสที่ 2 แล้ว เวลาระบาดของโรคหากมีอาการเบา แสดงว่าจำนวนผู้ป่วยยิ่งต้องเพิ่มมากขึ้น กว่าตัวเลขที่แท้จริงที่รายงาน เข้าระบบ การยกระดับการตรวจคัดกรองต้องทำอย่างเหมาะสมกับงบประมาณ และคุ้มค่า
เล็งเพิ่มหยุดสงกรานต์ฟื้นท่องเที่ยว
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เมื่อไทยเจอปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบวงกว้างทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซ้ำเติมปัญหาส่งออกชะลอตัว รัฐบาลจึงต้องเพิ่มวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำลังศึกษาแนวทาง เพื่อส่งเสริมให้มีวันหยุดหลายวันระหว่างเดินทางกลับต่างจังหวัดจะได้มีโอกาสใช้เงินในแหล่งท่องเที่ยว สำหรับปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลนนั้น ขอให้กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ประสานโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยเร่งผลิตหน้ากากอนามัยตลอด 24 ชั่วโมงให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด 35 ล้านชิ้นต่อเดือน และป้องกันไม่ให้กักตุนจากผู้ประกอบการ โดยรัฐบาลพร้อมอุดหนุนต้นทุน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี