น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในงานแถลงข่าว “ปิดเทอมสร้างสรรค์อัศจรรย์วันว่าง ประจำปี 2563” เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ทุกวันนี้เด็กไทยมีเวลาเล่นน้อยลง โดยมีรายงานวิจัยพบว่าเมื่อเข้าสู่ระบบการศึกษาที่เน้นวิชาการ เด็กจะมีเวลาเล่นอิสระไม่ถึง 60 นาทีต่อวัน โดยเวลาส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับในห้องเรียนและการเรียนพิเศษ จึงต้องเร่งสร้างความตระหนักในกลุ่มผู้ใหญ่เพื่อให้เข้าใจในความสำคัญของการเล่นอิสระของเด็ก
ที่สำคัญในยุคดิจิทัลเราไม่สามารถปิดกั้นหรือห้ามไม่ให้เด็กเล่นสื่อได้ ดังนั้น การเล่นอิสระตามความสนใจของเด็กนับเป็นทางเลือกสำคัญที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการและทักษะชีวิตของเด็ก และยังช่วยลดการใช้เวลาหน้าจอของเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี โดยการให้เด็กเล่นกับชิ้นส่วนที่หลากหลายเคลื่อนย้ายได้ หรือ Loose Parts Play ซึ่งเป็นของเล่นปลายเปิดเด็กสามารถจินตนาการเชื่อมโยงอย่างไร้ขอบเขตในแบบเฉพาะของเด็กเองค้นพบสิ่งใหม่
เกิดประสบการณ์ใหม่ ที่มีความเฉพาะของแต่ละคนอย่างอิสระ ทำให้เด็กค้นพบตัวเอง เห็นคุณค่าของสิ่งรอบตัวเช่น น้ำ ทราย ดิน กิ่งไม้ ใบไม้ โดยสามารถทำได้ง่ายๆ ใช้งบประมาณน้อย ในแต่ละบ้านแต่ละชุมชน สามารถจัดหาพื้นที่ว่างหรือ “ลานเล่น” ให้เด็กเล่นอย่างอิสระ จัดระบบการดูแลความปลอดภัยโดยใช้อาสาสมัครหรือจิตอาสาจากพ่อแม่ผู้ปกครองคอยดูแลเด็กๆ
ขณะที่ นายสุปรีดา อดุลยานนท์ผู้จัดการกองทุน สสส. เปิดเผยว่า สสส. ริเริ่มให้เกิดแพลตฟอร์มออนไลน์ในชื่อ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลเชื่อมร้อยกิจกรรมจากทุกหน่วยงาน สนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กโต และพื้นที่ “เล่นอิสระ” สำหรับเด็กเล็ก ซึ่งสำหรับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ปิดเทอมสร้างสรรค์ ในปี 2562 จากข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-23 ธ.ค. 2562 จำนวนผู้เข้าเว็บไซต์ 120,030 คนเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าจากปี 2561 ที่มีผู้เข้าเว็บไซต์ตลอดทั้งปี 35,291 คน
นอกจากนี้ ผลการสำรวจความต้องการและความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 1,930 คน ซึ่งเป็นเพศหญิงมากกว่าชาย และอยู่ในช่วงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมากกว่ากลุ่มวัยอื่น พบว่ามีความพึงพอใจมากกว่าร้อยละ 80 โดยในปี 2562 พบสถิติการใช้เวลาเล่นมือถือ/อินเตอร์เนตในช่วงปิดเทอมลดลงกว่าปี 2561 เล็กน้อย จากร้อยละ 20.3 เหลือร้อยละ 18.2 การเที่ยวห้างสรรพสินค้าลดลงจากร้อยละ 12.3 เหลือ 8.6
การเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด การเข้าค่ายกิจกรรม และการทำงานพิเศษ มีอัตราเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12.3 เป็นร้อยละ 14.5 , จากร้อยละ 10.3 เป็นร้อยละ 11.5 และจากร้อยละ 8.5 เป็นร้อยละ 10.6 ตามลำดับ สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เข้าร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์ในช่วงปิดเทอมมาจาก 3 ปัจจัยหลักได้แก่ กิจกรรมตรงใจ ร้อยละ 38.7, มีเพื่อนหรือผู้ปกครองไปด้วย ร้อยละ 28 และเดินทางใกล้ สะดวกสบาย ร้อยละ 23.4
สำหรับเว็บไซต์ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com ช่วยให้เด็ก เยาวชน ครูและผู้ปกครอง ค้นหากิจกรรมได้หลากหลาย ณ จุดบริการเดียว รูปแบบกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์เป็นกิจกรรมที่เน้นการพัฒนาทักษะชีวิต ทักษะทางสังคม ปลดปล่อยศักยภาพ ค้นหาแววในการทำงาน ตลอดจนความสุขในการเรียนรู้สู่โลกกว้าง ให้ครบทุกมิติ ผ่าน 4 หมวดกิจกรรม คือ 1.ตามหาฝัน :ร้อง เต้น เล่นดนตรี ศิลปะและกีฬา เพลิดเพลินกับกิจกรรมมากมายที่จะให้ทดลองในสิ่งที่อยากทำ
2.แบ่งปันสังคม : อยากแบ่งปันสังคม มาร่วมด้วยช่วยกันกับพื้นที่นี้ กิจกรรมจิตอาสาเพื่อผู้อื่นๆ 3.ค้นหาตัวตน : ฝึกงานในอาชีพที่ใช่ อยากทำงานมีรายได้พิเศษ ฝึกทักษะชีวิตเพื่อสร้างความแข็งแกร่งกับตัวเอง และ 4. เปิดโลกเรียนรู้ : พื้นที่และกิจกรรมที่จะทำให้เราได้เรียนรู้โลกได้กว้างขึ้น เพิ่มจินตนาการแห่งการเรียนรู้ ผู้สนใจข้อมูลกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ในช่วงปิดเทอม สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.comหรือติดตามข่าวสารได้ที่ทวิตเตอร์ @pidterm
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี