นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) กล่าวในงาน “สร้างสุขที่ปลายทางครั้งที่ 3” ณ รร.มิราเคิล แกรนด์คอนเวนชั่น ถ.วิภาวดีรังสิต ย่านหลักสี่กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้ ถึงการรับรู้ของประชาชนรวมถึงบุคลากรด้านสาธารณสุขในเรื่องการดูแลแบบประคับประคองผู้ป่วยระยะสุดท้าย (palliative care) และสิทธิการตายตามธรรมชาติ ว่ายังมีอยู่จำกัด
“องค์ความรู้เหล่านี้เพิ่งเริ่มมีในประเทศไทยไม่นานนัก อีกทั้งการขับเคลื่อนต้องอาศัยการทำงานร่วมกันจากหลายฝ่าย จึงได้จัดเวทีนี้ขึ้นเพื่อให้ภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการแนวทางการทำงาน และนำไปสู่การขยายผลพัฒนาองค์ความรู้ต่อไปในระยะยาว รวมถึงสนับสนุนให้เกิดกระบวนการการสื่อสารทางสังคมเพื่อยกระดับการรับรู้ของสังคม” นพ.ประทีป กล่าว
ขณะที่ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ในปี 2563 ผู้สูงอายุในประเทศไทยมีจำนวน 11.13 ล้านคน คิดเป็นประมาณร้อยละ 16.73 ของประชากรทั้งหมด และอีก4 ปีข้างหน้า จะเพิ่มเป็นร้อยละ 20 หรือเรียกว่า “สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์” อีกทั้งคาดว่าจะมีผู้ป่วยระยะสุดท้ายและผู้ป่วยเรื้อรังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องเตรียมพร้อมบุคลากรด้านสาธารณสุขและสังคมให้เข้าใจการดูแลแบบประคับประคอง เพื่อบรรเทาความทุกข์แก่ผู้ป่วยทั้งทางกาย อารมณ์ สังคม จิตวิญญาณ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนกระทั่งเสียชีวิต รวมถึงครอบครัวของผู้ป่วยด้วย
โดยกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบายให้ระบบบริการดูแลแบบประคับประคองเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาระบบสุขภาพ (Service Plan) เพื่อเป็นกรอบและแนวทางพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานในการดูแลวาระสุดท้ายของชีวิตของประชาชนชาวไทย รวมทั้งมีนโยบายการพัฒนาสุขภาพปฐมภูมิเพื่อสนับสนุนการดูแลแบบประคับประคอง และส่งเสริมการดูแลผู้ป่วยที่บ้านหรือชุมชน เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงวาระสุดท้ายลดความแออัดของโรงพยาบาล และลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลให้แก่ครอบครัว
“ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 5 อันดับแรก คือความดันโลหิตสูง เบาหวาน มะเร็งและเนื้องอก หัวใจขาดเลือด และหลอดเลือดสมอง มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และการเข้าถึงยาบรรเทาอาการปวดจำพวกมอร์ฟีนที่จะช่วยลดความทุกข์ทรมานนั้นมีผู้ป่วยเพียงร้อยละ 20 ที่เข้าถึง ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพการดูแลแบบประคับประคอง โดยเฉพาะในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย” นพ.สมศักดิ์ ระบุ
ทั้งนี้ ตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ได้รับรองสิทธิของบุคคลในการทำหนังสือเจตนาไม่ประสงค์รับบริการสาธารณสุขที่เป็นเพียงเพื่อการยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิตตน หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วย โดยการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง พร้อมทั้งคุ้มครองผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขที่ได้ปฏิบัติตามเจตนาของบุคคลที่ได้ทำหนังสือแสดงไว้ ให้ถือว่าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดและพ้นจากความรับผิดทั้งปวง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี