ด่วน!!!สธ.เร่งหาผู้โดยสาร‘รถตู้สระแก้ว’ กว่า 10 คน หลังพบนั่งคันเดียวกับผู้ป่วยติดเชื้อ “ชาวกัมพูชา” ที่อยู่ไทยนาน 30 วัน ก่อนกลับประเทศทางด่านสระแก้ว
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 2 มิถุนายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการที่ประเทศกัมพูชา พบผู้ป่วยโควิด-19 เป็นชายชาวกัมพูชา อายุ 26 ปี ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากโรงเรียนสอนศาสนาใน จ.ยะลา ว่า ภายใต้กฎอนามัยระหว่างประเทศ จะมีการแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการ ดังนั้น เมื่อกัมพูชาเจอผู้ป่วย เขาก็ต้องแจ้งให้ประเทศไทยทราบ เพราะเขากลับมาจากประเทศไทย ขณะนี้กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กำลังรอหนังสือฉบับนี้จากสาธารณสุข ของประเทศกัมพูชา
ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าบุคคลดังกล่าวเข้าด่านมาทางสระแก้ว ซึ่งจะต้องติดตามในส่วนของผู้ร่วมเดินทาง แต่เบื้องต้นผู้ป่วยรายดังกล่าวเรียนศาสนาในจ.ยะลา แต่ไม่ทราบอยู่ที่นั่นระยะเวลานานเท่าไหร่ แล้วเมื่อออกจากจ.ยะลา ผู้ป่วยรายดังกล่าวไปไหนต่อบ้าง เป็นเรื่องที่จะต้องสอบสวนเพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรค เพราะว่าประวัติการเดินทางเข้ามาอยู่ใช้เวลาเกือบ 30 วัน ก่อนที่จะกลับไปสู่ประเทศกัมพูชา ซึ่งจะประวัติที่ประเทศกัมพูชาให้มาผู้ป่วยรายนี้ได้นั่งรถตู้ลงที่ จ.สระแก้ว มีผู้ร่วมทางประมาณ 10 คน ซึ่งเป็นใครบ้างยังไม่ทราบ โดยในส่วนของกรมควบคุมโรคกำลังทำงานร่วมกับทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้ได้เครือข่ายของผู้ที่ใช้เครื่องมือสื่อสารในระหว่างนั่งรถตู้ตามที่อ้างในวันที่เดินทาง โดยรายละเอียดจะดำเนินการให้ทราบภายหลัง
สำหรับความสำคัญในการใส่หน้ากากอนามัยแม้ว่าจะพบผู้ป่วยน้อยลงนั้น นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า หน้ากากอนามัยเป็นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนให้มีการใช้หน้ากากอนามัยทุกคน โดยในช่วงที่พบผู้ป่วยจำนวนมากก็ยังไม่พบว่าคนไทยมีการใส่หน้ากากครบ 100% จากข้อมูลตั้งแต่มีการระบาดของโรคเต็มมีการใส่หน้ากากเต็มที่สูงสุด 94 % เพราะฉะนั้นหน้ากากอนามัยเป็นเครื่องมือ สำคัญที่สุดเพราะว่าโรคทางเดินหายใจผู้ที่ผู้ป่วยไม่มีอาการ อาจแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นจากละอองฝอย น้ำลายได้ สำหรับการป้องกันโรคการใส่หน้ากากอนามัย จะให้เป็นเบอร์ 1 ควบคู่กันกับการกินร้อนช้อนตัวเอง ล้างมือให้สะอาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี