สปคม.เผยกลไกการเงินของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไทย เป็นปัจจัยสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดี รวมถึงและการใช้เครื่องมือนโยบาย UCEP หรือ "เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่" ทำให้รองรับผู้ป่วยได้เพียงพอ
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2563 นพ.เอนก มุ่งอ้อมกลาง ผู้อำนวยสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กลไกทางการเงินของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของประเทศไทย กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 และการใช้เครื่องมือนโยบาย Universal Coverage for Emergency Patients (UCEP) หรือ "เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่" ทำให้รองรับกับผู้ป่วยได้อย่างเพียงพอ
นพ.เอนก อธิบายว่า แม้ในช่วงแรกกลไกของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เดิมจะไม่มีการวางเรื่องของเคสโควิด-19 เอาไว้ เพราะเป็นเคสที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงแรกทางสถาบันบำราศนราดูร รวมถึงกรมการแพทย์ยังสามารถแบกรับภาระได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น จำนวนเตียงของทางภาครัฐที่มีไม่เพียงพอทำให้ผู้ป่วยต้องรอเตียงนาน 4 - 14 วัน
"เมื่อ สปสช.ผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่กลไก UCEP มีค่าใช้จ่ายเข้ามาสมทบ จากเตียงที่เคยหายากหรือหาไม่ได้ กลายเป็นมีอีกกว่า 1 - 2 พันเตียง ที่เพิ่มเข้ามาจากภาคเอกชน เตียงที่เคยมีจำกัดกลายเป็นมีเหลืออย่างเพียงพอ และยังสามารถรองรับการระบาดระลอกสองที่อาจเกิดขึ้นได้" นพ.เอนก อธิบาย
เช่นเดียวกับในส่วนของการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาเชื้อโรค ซึ่งในช่วงแรกที่จำนวนห้องปฏิบัติการมีปริมาณจำกัด ทำให้คนเข้าถึงการตรวจได้น้อย แต่เมื่อมีการใช้กลไกการเงินเข้ามาสนับสนุนการพัฒนาแล็บ ได้ช่วยกระตุ้นให้มีห้องปฏิบัติการเกิดขึ้นเพิ่มมากมาย ซึ่งแม้จะดูเหมือนการสูญเสียในช่วงแรก แต่ผลจากการลงทุนนั้นก็ช่วยให้บรรลุเป้าประสงค์ที่เพิ่มการเข้าถึงการตรวจหาเชื้อได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
นพ.เอนก กล่าวว่า ตัวอย่างเหล่านี้คือสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนของนโยบายทางการเงินที่มีอิทธิพลต่อโรคระบาด โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีความแยกส่วนของการจัดการ ทำให้ไม่สามารถสั่งการอะไรได้ แต่ด้วยกลไกทางการเงินที่สามารถจัดสรรได้ตามช่องทางเดิมที่มีอยู่ ทำให้ช่วยจัดการกับภาวะวิกฤตในครั้งนี้ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี