‘ดีเปรสชั่น’ถล่มไทย

เตรียมรับมือ7-9ต.ค.

ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

งดเดินเรือออกทะเล

อุตุฯเตือนพายุดีเปรสชั่น จ่อถล่ม 7-9 ตุลาคมนี้ ทั่วไทยเสี่ยงภัยน้ำท่วม ด้านปภ.รายงานสถานการณ์น้ำไหลหลาก5 จังหวัด เร่งประสานแก้ไข ส่วน ‘มหาชัย’ระทม ฝนตกหนัก-น้ำทะเลหนุน ท่วมรอบตัวเมือง

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ฉบับที่ 2 มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 7-9 ตุลาคม 2563 ระบุว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่นคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนใต้ในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ จากนั้นจะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเข้าสู่อ่าวไทยตอนบนในวันที่ 8 ตุลาคม โดยจะมีผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑลและภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 7-9 ตุลาคมนี้

อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรงดการเดินเรือในช่วงวันที่ 7-10 ตุลาคมนี้

ด้าน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จ.นครราชสีมา นครนายก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร และปราจีนบุรี รวม 11 อำเภอ 19 ตำบล 31 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (อุตรดิตถ์) ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำท่วมขัง พร้อมสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว

ทั้งนี้ จ.นครราชสีมา เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.สีคิ้ว อ.ปักธงชัย อ.ขามทะเลสอ อ.สูงเนิน และอ.เมืองนครราชสีมา รวม 8 ตำบล 9 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32 ครัวเรือน ถนน 3 สาย และพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ที่อ.เมืองนครราชสีมา ระดับน้ำลดลง นครนายก เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ปากพลี และอ.องครักษ์ รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 72 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

อุตรดิตถ์ เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อ.ท่าปลา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว กำแพงเพชร น้ำไหลหลากเข้าพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองกำแพงเพชร และอ.โกสัมพีนคร รวม 6 ตำบล 16 หมู่บ้าน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว และปราจีนบุรี ฝนตกหนักทำให้น้ำล้นคันกันน้ำคลองประจันตคาม อ.ประจันตคาม รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ทั้งนี้ ประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

ส่วนที่ เมืองมหาชัย จ.สมุทรสาคร วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงเช้า ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้จราจรเกิดอัมพาต โดยมีน้ำท่วมรอบตัวเมืองมหาชัย อาทิ ถนนสรศักดิ์ ด้านข้าง สภ.เมืองสมุทรสาคร น้ำทะเลหนุนสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ถนนรอบโรงเรียนเอกชัย และสถานที่ราชการบางแห่ง มีน้ำท่วมสูงกว่า 20 เซนติเมตร โดยเฉพาะพื้นที่ต่ำบางจุด น้ำท่วมถึง 50 เซนติเมตร ทำให้ประชาชนที่สัญจรไปมา รวมทั้งนักเรียนที่ต้องเดินทางไปโรงเรียน ต้องประสบความเดือดร้อน

นอกจากนี้ ยังพบว่าน้ำที่ท่วมสูงโดยรอบตัวเมืองมหาชัย ไม่สามารถระบายออกได้ทันที หรือระบายออกได้อย่างช้าๆ เนื่องจากต้องรอจนกว่าน้ำทะเลจะลดต่ำลง

นายชิงชัย บุญประคอง ปลัดเทศบาลนครสมุทรสาคร ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสมุทรสาคร กล่าวว่า สาเหตุที่น้ำท่วมเกิดจากฝนตกหนักมาก อีกทั้งมีน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งทางเทศบาลฯ ได้บริหารจัดการ รวมทั้งมีประตูปล่อยน้ำลงทะเลได้ แต่น้ำทะเลหนุนสูงจึงไม่สามารถปล่อยได้ และเครื่องสูบที่ใช้สูบน้ำก็สู้ไม่ไหว อย่างไรก็ดี น้ำก็ลดลงไปมากเพราะมีการสูบน้ำต่อเนื่อง โดยจุดที่ท่วมสูงคือบริเวณหน้าบิ๊กซ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำ และถนนสุรศักดิ์ ซึ่งได้มีการแก้ไขโดยยกระดับถนน อยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการ โดยสถานการณ์น้ำท่วมคาดว่าภายในบ่ายวันเดียวกัน น่าจะกลับมาสู่สภาวะปกติเหมือนเดิม