วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'อนุทิน'เปิดประชุมชี้แจงงบ'บัตรทอง'ปี64 เตรียมพร้อมยกระดับบริการ4รายการใหม่

'อนุทิน'เปิดประชุมชี้แจงงบ'บัตรทอง'ปี64 เตรียมพร้อมยกระดับบริการ4รายการใหม่

วันพุธ ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 14.57 น.
Tag : บัตรทอง​ รมว.สาธารณสุข สปสช. อนุทิน ชาญวีรกูล
  •  

"อนุทิน"เปิดประชุมชี้แจง"กองทุนบัตรทอง ปี 64" เตรียมพร้อม"ยกระดับบริการ 4 รายการใหม่" เพิ่มการเข้ารับบริการให้กับประชาชน เผยสถานการณ์วิกฤติ ปี 63 สะท้อนประสิทธิภาพบริหารจัดการกองทุน ย้ำรัฐบาลหนุนนโยบายและงบบัตรทองเพื่อดูแลประชาชนต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทราบายเซ็นทรา ศูนย์ราชการฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2564 พร้อมปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” จัดโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข คณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานและบริหารกองทุน คณะอนุกรรมการกำหนดประเภทขอบเขตบริการ คณะกรรมการ อปสข. อนุกรรมการคุณภาพฯ ระดับพื้นที่ นพ.สสจ. หัวหน้ากลุ่มประกัน และหน่วยบริการทุกสังกัดทั่วประเทศ รวมจำนวนประมาณ 800 คนทั่วประเทศ โดยเป็นรูปแบบการประชุมทางไกลถ่ายทอด ผ่าน Facebook live เพจ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ


นายอนุทิน กล่าวว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “กองทุนบัตรทอง” ในปีงบประมาณ 2564 นี้ นับเป็นก้าวเข้าสู่ปีที่ 19 ตลอดระยะเวลาได้มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานกองทุนอย่างต่อเนื่อง ตามสถานการณ์ต่างๆ ทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมามีสถานการณ์ที่ทำให้กองทุนฯ ต้องมีการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการในบางส่วนเพื่อให้เกิดความเหมาะสม สถานการณ์แรกคือการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เริ่มพบผู้ที่ติดเชื้อในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงต้นปี รัฐบาลไทยดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและความคุมโรคอย่างเข้มข้น ทำให้วันนี้ไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมเพียง 3,641 ราย เสียชีวิต 59 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 12 ต.ค. 63) ขณะที่ทั่วโลกในหลายประเทศ รวมมีผู้ติดเชื้อถึง 37.7 ล้านคน เสียชีวิตกว่าล้านคนแล้ว

“กองทุนบัตรทอง” เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อป้องกันและควบคุมโควิด-19 ทั้งการคัดกรอง การรักษา ค่ายา อุปกรณ์ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อดูแลประชาชน ทันทีเมื่อมีแนวโน้มการแพร่ระบาด ได้มีการจัดงบประมาณ “กองทุนบัตรทองโควิด-19” โดยใช้งบสะสมรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสมของกองทุนฯ และเพิ่มเติมจากงบกลาง รวมกว่า 4.2 พันล้านบาท สะท้อนถึงศักยภาพและประสิทธิภาพการบริหารจัดการกองทุนที่ทันต่อสถานการณ์แม้ในยามเร่งด่วน โดยไม่กระทบต่องบดูแลผู้ป่วยและให้บริการในระบบตามปกติ พร้อมปรับการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนเพิ่มเติม อาทิ โครงการผู้ป่วยรับยาร้านยาใกล้บ้าน โครงการส่งยาให้ผู้ป่วยทางไปรษณีย์ การสนับสนุนหน่วยบริการจัดระบบสาธารณสุขทางไกล (Telehealth/Telemedicine) การปรับหลักเกณฑ์กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) เพื่อให้ท้องถิ่นนำงบมาใช้ในการป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่

นายอนุทิน กล่าวว่า กรณีคลินิกบัตรทองในเขต กทม. เบิกจ่ายค่าบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ซึ่งพบความผิดปกติของข้อมูลเบิกจ่ายที่ตรวจพบโดยระบบตรวจสอบของ สปสช. เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะกระทบต่อผู้มีสิทธิจากความจำเป็นในการยกเลิกสัญญาการเป็นหน่วยบริการในระบบบัตรทอง แต่ที่ผ่านมา สปสช. ได้เร่งแก้ไข จับมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่มีสถานพยาบาลในสังกัดเพื่อรองรับดูแลผู้ป่วยเร่งด่วนและดูแลต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง ระหว่างนี้ได้เร่งจัดหาหน่วยบริการปฐมภูมิทดแทนเพื่อให้บริการ กรณีนี้แม้เป็นภาวะวิกฤต แต่ก็เป็นโอกาสในการปฏิรูปบริการปฐมภูมิในพื้นที่ กทม.ขณะนี้ สปสช.ได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดวางโครงสร้างระบบบริการรูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ 2564 นี้ เรียกได้ว่าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสสำหรับคน กทม.

สำหรับปี 2564 นี้ กองทุนบัตรทองยังคงเดินหน้าให้การดูแลประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลยินดีสนับสนุนนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและงบประมาณกองทุนบัตรทองอย่างต่อเนื่อง โดยปีงบประมาณ 2564 รัฐบาลจัดสรรงบกองทุนบัตรทอง 194,508.78 ล้านบาท เป็นงบเหมาจ่ายรายหัว 177,198.99 ล้านบาท หลังหักเงินเดือนภาครัฐ 52,143.97 ล้านบาท เป็นงบเหมาจ่ายที่ส่งให้ สปสช.บริหาร 125,055.01 ล้านบาท และงบนอกเหมาจ่ายรายหัวอีก 17,309.79 ล้านบาท

“การบริหารงบบัตรทองในแต่ละปี เน้นที่ความคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ มุ่งดูแลประชาชนให้เข้าถึงบริการสุขภาพอย่างครอบคลุมและทั่วถึง โดยปีงบประมาณ 2564 นี้ จากการประชุมบอร์ด สปสช. ล่าสุด ได้เห็นชอบการยกระดับบริการบัตรทอง 4 รายการ คือ 1.นำร่องเข้ารับบริการปฐมภูมิบัตรทองที่หน่วยบริการทุกแห่งในเครือข่ายบริการใน กทม. จะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย. นี้ 2.ผู้ป่วยในไม่ต้องใช้ใบส่งตัว นำร่องที่เขต 9 นครราชสีมาในวันที่ 1 พ.ย. นี้ และใน กทม.และปริมณฑลจะเริ่มวันที่ 1 ม.ค. 64 3.โรคมะเร็งไปรับบริการที่โรงพยาบาลไหนก็ได้ที่พร้อมและร่วมให้บริการ โดยจะมีการจัดสรรทรัพยากรแต่ละหน่วยบริการเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยต้องรอคิวนาน และ 4.ย้ายหน่วยบริการได้สิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน จะเริ่มในวันที่ 1 ม.ค. 64 สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาและปรับปรุงการบริหารจัดการกองทุนบัตรทองที่ไม่หยุดนิ่ง ตอบสนองความต้องการผู้มีสิทธิ เพื่อให้เป็นหลักประกันด้านสุขภาพแท้จริงของประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมบริหารกองทุนบัตรทอง ทั้งในส่วนผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ องค์กรวิชาชีพด้านการแพทย์ และภาคประชาชน ทำให้กองทุนบัตรทองเดินมาถึงวันนี้ และในปี 2564 เชื่อมั่นว่าทุกภาคส่วนจะยังคงให้ร่วมมือด้วยดี ทั้งการให้บริการ การดำเนินสิทธิประโยชน์ต่างๆ ภายใต้กองทุนฯ โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือประชาชน ขณะเดียวกันนโยบายในปี 2564 ยังคงให้ความสำคัญกับผู้ให้บริการควบคู่ สนับสนุนการให้บริการของหน่วยบริการ ลดขั้นตอนต่างๆ และแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคเพื่อให้หน่วยบริการสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในระบบบริการเพิ่มขึ้น อาทิ บริการจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่, การยืนยันตัวตนผู้รับบริการด้วยสมาร์ทการ์ด, การเพิ่มการเข้าถึงบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคผ่าน “เป๋าตังสุขภาพ” บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ที่ร่วมกับธนาคารกรุงไทย และการให้บริการระบบการแพทย์ทางไกล เป็นต้น เหล่านี้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ 2564 นี้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘สปสช.’แจงแนวทางดูแลผู้ป่วย‘โควิด’สิทธิบัตรทอง’ ย้ำโทร จ่าย จบ-เจอ แจก จบ ยุติบริการแล้ว ‘สปสช.’แจงแนวทางดูแลผู้ป่วย‘โควิด’สิทธิบัตรทอง’ ย้ำโทร จ่าย จบ-เจอ แจก จบ ยุติบริการแล้ว
  • \'สมศักดิ์\'เผย\'ประกันสังคม-ข้าราชการ\' ตอบมาแล้วไม่พร้อมร่วม\'บัตรทอง 30 บาท 'สมศักดิ์'เผย'ประกันสังคม-ข้าราชการ' ตอบมาแล้วไม่พร้อมร่วม'บัตรทอง 30 บาท
  • ชงแยก‘ประกันสังคม’พ้นระบบราชการ หนุน‘สปสช.’ดูแลรักษาพยาบาลผู้ประกันตน ชงแยก‘ประกันสังคม’พ้นระบบราชการ หนุน‘สปสช.’ดูแลรักษาพยาบาลผู้ประกันตน
  • สปสช.เปิดบริการจองคิวผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคทำกายภาพบำบัด 30 บาทรักษาทุกที่ ผ่านสายด่วน 1330 สปสช.เปิดบริการจองคิวผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคทำกายภาพบำบัด 30 บาทรักษาทุกที่ ผ่านสายด่วน 1330
  • \'สปสช.\'ยันไม่ได้ติดหนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะ มีงบพร้อมจ่าย แต่ติดเงื่อนไขทางคดี 'สปสช.'ยันไม่ได้ติดหนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะ มีงบพร้อมจ่าย แต่ติดเงื่อนไขทางคดี
  • สปสช.ถกเปลี่ยนวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกHPV จาก2สายพันธุ์2เข็ม เป็น9สายพันธุ์1เข็ม สปสช.ถกเปลี่ยนวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกHPV จาก2สายพันธุ์2เข็ม เป็น9สายพันธุ์1เข็ม
  •  

Breaking News

ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

เชียงรายอ่วม!ฝนหนักทำน้ำท่วม 15 อำเภอ ปภ.เร่งสำรวจความเสียหายช่วย ปชช.

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved