อำเภอภูกระดึง จ.เลย ทั้งในส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องประชาชนชาวอำเภอภูกระดึง ได้ร่วมกันจัดงานประเพณีสักการะพระพุทธเมตตา บูชาเจ้าปู่ภูกระดึง หรือคีตกาลแห่งขุนเขาสืบสานตำนานภูกระดึง ขึ้นโดยจัดขบวนแห่ จำลองเป็นรุกขเทวดา ที่มีความเชื่อสิงสถิตอยู่บนภูกระดึง พร้อมกับนางรำร่วมบูชา รุกขเทวดา บูชาเจ้าปู่ภูกระดึง นับ 1,000 คน โดยมีนายต่อศักดิ์ สกุณวัฒน์ นายอำเภอภูกระดึง เป็นประธานเปิดงาน
โดยภายในงานจะพิธีสำคัญของงาน ได้แก่ การโยงสายสิญจน์อัญเชิญพระพุทธเมตตาลงจากยอดเขาภูกระดึง เพื่อให้ชาวบ้านสักการะ และการทำพิธีบวงสรวงบูชาปู่ภูกระดึง ซึ่งในการจัดงาน เพื่อรักษาวัฒนธรรม สืบสานประเพณี ศิลปะอันดีงาม และภูมิปัญญาของท้องถิ่นอำเภอ
นางจินตนา โพธิพรหม นายกเทศมนตรีตำบลภูกระดึง เปิดเผยว่า การจัดงาน “สักการะพระพุทธเมตตาบูชาเจ้าภูกระดึง”(คีตกาลแห่งขุนเขาสืบสานตำนานภูกระดึง) ครั้งที่ 2 ประจำปี 2563 ชาวภูกระดึงมีความเชื่อในตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมาว่า เมื่อปี 2348 มีพรานป่าผู้หนึ่งเดินทางมาจากนครจำปาศักดิ์ รอนแรมมาหลายวัน พบพื้นที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การตั้งบ้านเมือง พรานป่าจึงเดินทางกลับบ้าน แล้วอพยพครอบครัวและญาติพี่น้องมาตั้งรกรากแล้วตั้งชื่อว่า “หมู่บ้านท้ายเมือง” หรือ ผานกเค้า
วันหนึ่ง นายพรานออกตามล่ากระทิงโทนที่ปราดเปรียว เป็นเวลาหลายวัน จนกระทั่งถึงเชิงเขาลูกหนึ่ง พบรอยเท้าที่ใหญ่ และหนักของกระทิง นายพรานได้แกะรอยตามอย่างไม่ลดละ จนขึ้นมาถึงยอดเขา ภาพที่เห็นทำให้ถึงกับตะลึง เพราะพื้นที่บนยอดเขานั้น ราบเรียบและกว้างใหญ่ไพศาล เต็มไปด้วยเหล่าสัตว์ป่านานาชนิด ทั้งกระทิง เก้ง กวาง และช้างป่า หากินกันอยู่เป็นฝูงๆ สัตว์เหล่านั้นไม่ได้ตกใจ หรือตื่นกลัวนายพรานเลย เพราะไม่เคยเห็นคนมาก่อน ส่วนนายพรานเองก็ไม่กล้าที่จะยิงสัตว์เหล่านั้นเพราะเชื่อว่า ภูเขายอดตัดที่เห็นนั้นเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จึงได้กลับลงมาและบอกเล่าเรื่องราวที่ได้ไปพบเจอมาให้เพื่อนบ้านฟังเรื่องราวจึงถูกเปิดเผยตั้งแต่นั้นมา
สมัยที่ภูเขาลูกนี้ยังไม่มีชื่อ ก็มีตำนานเล่ามาว่า “มีเสียงระฆังดังมาจากบนภูเขาชาวบ้านเรียกหมู่บ้านนี้ว่า“หมู่บ้านผีบังบด”ซึ่งเป็นหมู่บ้านของมนุษย์จำพวกหนึ่งที่เราไม่สามารถจะเห็นตัวของเขาได้ เมื่อเข้าใกล้หมู่บ้าน ทั้งหมู่บ้านก็จะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นป่าทันที และทุกวันพระจะมีเสียงกระดิ่ง กระดึง หรือบางคนได้ยินเป็นเสียงระฆังบ้าง จนกล่าวกันว่า เป็นเสียงของพระอินทร์ทำพิธีกรรม จนชาวบ้านกล่าวเป็นชื่อเขานี้ว่า“ภูกระดิ่ง” ต่อมาเรียกและเพี้ยนมาเป็น “ภูกระดึง” จนถึงปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี