“พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.” นำทัพแถลง “ตม.3-สืบ ตม.3” คุมเข้มสกัดโควิด รวบขบวนการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย แฉยับทุกขั้นตอน ฟันค่าหัวอื้อ
8 ธันวาคม 2563 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3. , พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ , พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ รอง ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงผลการจับกุมขบวนการลอบคนต่างด้าวผิดกฎหมาย
สืบเนื่องจากชุดจับกุมสืบทราบว่ามีกลุ่มขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าว เพื่อเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ซึ่งแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวมีการลักลอบเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปแล้ว และมีการลักลอบเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีกครั้ง ตามช่องทางธรรมชาติบริเวณชายแดนด่านบ้านแหลม ต.เทพนิมิตร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดยทราบว่าปัจจุบันมีการปิดด่านพรมแดน เนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โดยครั้งนี้จะมีกลุ่มขบวนการดังกล่าวจะเดินเท้าข้ามชายแดนฝั่งตลาดบ้านแหลม ประเทศกัมพูชา เพื่อเข้ามาในราชอาณาจักร และจะมาพักหลบซ่อนตัว ที่ห้องเช่าไม่ทราบเลขที่บริเวณแยกจางวาง ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
จากนั้นจะนำรถยนต์มาบรรทุกแรงงานต่างด้าวพร้อมสัมภาระขนย้ายไปส่งยังสถานีบริการน้ำมันบริเวณถนนบ้านบึง-แกลง ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และจะมีรถยนต์ตู้เดินทางเข้ามารับช่วงต่อ พร้อมกับนำแรงงานต่างด้าวที่มีความประสงค์จะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายเดินทางมาด้วย โดยจะนำแรงงานต่างด้าวไปส่งยังชายแดนเพื่อลักลอบเดินทางออกนอกราชอาณาจักรต่อไป จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมร่วมกันวางแผนการจับกุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมบางส่วนได้เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณลานจอดรถในบริเวณที่เกิดเหตุ พบนายสมศักดิ์ ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์บรรทุกแรงงานต่างด้าวและนายศุภกฤต ขับรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ บรรทุกแรงงานต่างด้าวและบรรทุกสัมภาระเต็มท้ายกระบะ เมื่อรถยนต์จอดบริเวณที่เกิดเหตุบุคคลทั้งสองให้แรงงานต่างด้าวลงจากรถยนต์เพื่อหลบซ่อนตัวลักษณะอำพรางในที่มืด เพื่อมิให้เป็นที่สังเกตเห็นของผู้มาใช้บริการสถานีบริการน้ำมัน ต่อมาได้มีรถยนต์ตู้ขับขี่โดยนายณัฐพล เข้ามาจอดเทียบด้านข้างของรถยนต์ทั้งสองและมีกลุ่มแรงงานที่ประสงค์จะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเดินลงมาจากรถ พร้อมได้ขนสัมภาระส่วนตัว
เมื่อเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเป็นกลุ่มขบวนการลักลอบนำกลุ่มบุคคลต่างด้าวเข้าและออกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย จึงได้แสดงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้า ทำการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่าชายไทยทั้ง 3 รายว่า “กระทำการ หรือดำเนินการใดๆ หรือเข้าไปอยู่ในสถานที่ใดๆ อันเป็นการแออัด และอันเป็นการมั่วสุม ตามข้อกำหนดในมาตรา 9 ฉบับที่ 1 ข้อ 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548” และ “ร่วมกันซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
พร้อมของกลาง 1.รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ 2.รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ 3.รถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า และโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง และได้แจ้งข้อกล่าวหาคนต่างด้าวว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมืองฯ , เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมืองฯและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด” ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่ารถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้าได้รับกลุ่มแรงงานต่างด้าวเพื่อเดินทางออกนอกราชอาณาจักร จากบริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.ศาลายา จว.นครปฐม และจากในเขตกรุงเทพฯ โดยแรงงานต่างด้าวจะเสียค่าใช้จ่ายรายละประมาณ 2,500 บาท รถตู้ได้รายละ 400 บาท ส่วนที่เหลือผู้จัดหานำไปดำเนินการต่อ ส่วนรถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์รับกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเดินทางเข้าจากบริเวณแยกจางวาง ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดยแรงงานต่างด้าวจะเสียค่าใช้จ่ายรายละประมาณ 3,000 บาท รถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ได้รายละ 1,000 บาท ส่วนที่เหลือผู้จัดหานำไปดำเนินการต่อ จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางซึ่งใช้ในการกระทำความผิด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.สส.บก.ตม.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี