“ผบช.สตม.” นำทีมแถลง “ตม.จว.หนองคาย-บก.ตม.4” รวบแก๊งรถตู้รับจ้างลอบขนคนเวียดนาม จาก “กทม.-นนทบุรี” ไปหนองคาย หวังผ่านลาว ลากคอเรียบยันเอเย่นต์
7 มกราคม 2564 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.เอกมนต์ พรชูเกียรติ , พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร , พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.ธานินทร์ อินทพรต ผกก.ตม.จว.หนองคาย ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาขบวนการลักลอบขนคนเวียดนาม
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.หนองคาย นำรถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ BMW ออกลาดตระเวนเพื่อสืบสวนและจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวมาจากพื้นที่เสี่ยง จนกระทั่งพบรถยนต์ตู้ต้องสงสัย 2 คัน ซึ่งได้ชะลอเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจก่อนถึงจุดตรวจด่านหนองสองห้อง ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย เมื่อพบว่ามีการตั้งด่านจึงพยายามจะกลับรถหลบหนีการตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้เข้าแสดงตัวขอตรวจสอบ พบนายทองใบ อายุ 51 ปี สัญชาติไทย เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ตู้สีขาว ทะเบียน กทม. และ นายทา เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ตู้สีขาว ทะเบียน กทม. โดยมีแรงงานชาวเวียดนามโดยสารมาทั้งสิ้น 12 คน ตรวจสอบพบว่าเป็นผู้กระทำความผิดฐานหลบหนีเข้าเมือง 2 คน และอยู่เกินกำหนดจำนวน 6 คน จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ ตม.จว.หนองคาย
จากการสอบปากคำ นายทองใบ และ นายทา รับว่าได้รับการติดต่อจากเอเย่นต์ชาวเวียดนาม ว่าจ้างให้นำรถยนต์ตู้ไปรับแรงงานชาวเวียดนามในเขต กทม. และ จ.นนทบุรี เพื่อพามาส่งที่ชายแดน จ.หนองคาย เพื่อลักลอบเดินทางข้ามไปยัง สปป.ลาว โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินคนละ 8,000 บาท แต่จะได้รับค่าจ้างเมื่อสามารถส่งแรงงานชาวเวียดนามเสร็จสิ้นแล้ว แต่มาถูกตรวจพบก่อนในที่สุด
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ให้ความช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้รอดพ้นจากการถูกจับกุมและ เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวออกจากพื้นที่ตามข้อกำหนดในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” พร้อมควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา ตม.จว.หนองคาย บก.ตม.4 ได้สืบสวนขยายผลตัวการในการขนแรงงานชาวเวียดนามในครั้งนี้ จนกระทั่งทราบว่ามีคนต่างด้าวชาวเวียดนาม ชื่อ Mr.Mai Van อายุ 34 ปี เป็นเอเย่นต์ในการติดต่อคนขับรถยนต์ตู้ให้ไปตระเวนรับแรงงานชาวเวียดนามตามสถานที่นัดหมาย และให้พามาส่งที่ชายแดน จ.หนองคาย เพื่อลักลอบเดินทางกลับ สปป.ลาว ตามช่องทางธรรมชาติ จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อขออนุมัติหมายจับ ต่อมาศาลจังหวัดหนองคายได้อนุมัติหมายจับ Mr.Mai Van ตามหมายจับที่ จ.1/2564 ลง 5 ม.ค.2564 ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นให้ความช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้รอดพ้นจากการถูกจับกุม” และ “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวออกจากพื้นที่ตามข้อกำหนดในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน”
จากนั้น ตม.จว.หนองคาย ได้ทำการสืบสวนติดตามตัว จนกระทั่งทราบว่าได้มากบดานที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จึงได้เข้าทำการแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นช่วยซ่อนเร้นช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และ เป็นผู้ใช้เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวออกจากพื้นที่ตามข้อกำหนดในมาตรา 9 แห่ง พรก.การบริหารราชการฉุกเฉิน” ควบคุมตัวตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติ ที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี