ศบค.สรุปภาพรวมเปิดประเทศ 1 – 7 พ.ย. มีผู้เดินทางเข้าประเทศทั้งสิ้น 22,832 ราย พบผู้ติดเชื้อ 20 ราย หรือ คิดเป็น 0.09% พบกลุ่มประเทศที่เข้ามามากสุดผ่านสนามบินสุวรรณภูมิเป็นเยอรมนีสูงสุด รองลงมาสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร
เมื่อเวลา 12.30 น. 8 พ.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า สำหรับมาตรการเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1 – 7 พ.ย. มีผู้เดินทางเข้าประเทศทั้งสิ้น 22,832 ราย พบผู้ติดเชื้อ 20 ราย คิดเป็น 0.09% ประเทศที่เข้ามามากสุดผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ได้แก่ เยอรมนี 2,666 ราย รองลงมาสหรัฐอเมริกา 2,665 ราย สหราชอาณาจักร 14,75 ญี่ปุ่น 1,449 ราย เกาหลีใต้ 987 โดยกระทรวงสาธารณสุขจะติดตามตัวเลขดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมขอเน้นย้ำกับประชาชนว่าผู้ที่เดินทางเข้าราชอาณาจักรแบบไม่กักตัว ได้รับอนุญาตเข้ามาเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงทางสาธารณสุข เป็นการเปิดประเทศในสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดอยู่ แต่ขอให้ภาครัฐ ผู้ประกอบการ เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
เมื่อถามถึงกรณีที่พบผลตรวจ ATKเป็นผลบวกลวง ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร ศบค.มีแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร พญ.อภิสมัย กล่าวว่า การเปิดเรียนเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองมีความเป็นห่วงกังวล บางรายยังไม่มั่นใจที่จะให้บุตรหลานไปโรงเรียนเพื่อเรียนออนไซต์ การประกาศของศบค. มีการระบุว่าการจะเปิด เปิดแค่ไหน เปิดอย่างไร จะต้องมีการตรวจATK ตรวจถี่ หรือบ่อยแค่ไหน ตรวจวิธีใด ขอให้เป็นไปตามความเห็นของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งสามารถลงรายละเอียดได้ แตกต่างกันในแต่ละอำเภอ แต่ละพื้นที่ สิ่งสำคัญคือจะเห็นได้ชัดว่า ในส่วนของบางโรงเรียนทางจังหวัด อนุญาตให้เปิดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. บางโรงเรียนกำลังจะเปิดในวันที่ 17 พ.ย. หรืออาจมีบางโรงเรียนที่ผู้ปกครองถามเข้ามาคือ โรงเรียนขอให้เป็นการเรียนออนไลน์ทั้งหมดก็ยังมี ดังนั้น จะเห็นความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดและการเฝ้าระวังความพร้อมของแต่ละพื้นที่
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า หากดูมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ได้เน้นย้ำทางโรงเรียนให้เตรียมความพร้อมก่อนที่จะเปิดเรียน ประกอบด้วย 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการรอง และ 7 มาตรการเข้ม และสิ่งที่เน้นย้ำเสมอคือครูและบุคลากรทางการศึกษาจะต้องมีการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุม และที่สำคัญในแง่ของการจัดการสถานที่ โรงเรียนจะต้องประเมินความพร้อมโดยประเมินตนเอง ของสถานศึกษาด้วยคำถาม TSC และใน การจัดการเรียนการสอนขอเน้นย้ำให้เป็นรูปแบบ สมอลบับเบิ้ล หมายความว่าไม่อนุญาตให้มีกิจกรรมรวมกลุ่ม ที่อาจจะมีนักเรียนหลายชั้นมารวมกันในห้องประชุมใหญ่ๆ อันนี้ขอให้งดไปก่อน
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สมอลบับเบิ้ล หมายถึงการจำกัดให้นักเรียน หรือครู หรือบุคลากรทางการศึกษา ที่จะต้องเข้ามาดูแลนักเรียนนั้นสามารถที่จะแยกกลุ่มได้ เช่น ครูอาจจะสอนบางชั้นบางปี ไม่ใช่ว่าครูคนหนึ่งสอนทุกชั้นทุกปี และยังมีรายละเอียดเรื่องการจัดระบบการให้บริการอาหาร เพราะในชีวิตวิถีใหม่เราจะต้องแยกให้เป็นลักษณะที่ ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ลดการติดเชื้อ ลดการรวมกลุ่ม รวมถึงอนามัยสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องการจัดการน้ำ การจัดการขยะ การระบายอากาศ การทำความสะอาด แต่ละโรงเรียนจะขอให้มีการทบทวนแผนเผชิญเหตุ เช่น กรณีที่มีรายงานนักเรียนติดเชื้อ ไม่ได้หมายความว่าโรงเรียนจะต้องปิดในทันที แต่ในกรณีที่ทำมาตรการสมอลบับเบิ้ลแล้ว อาจจะสามารถที่จะสอบสวนไทม์ไลน์ได้ว่านักเรียนคนดังกล่าวสัมผัสใครบ้าง และสามารถสืบค้นตรวจโรคไปได้ว่า ใครเป็นผู้เสียงสูง เสียงต่ำ ครูคนไหนเป็นผู้เสียงสูง เสียงต่ำ
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม บางโรงเรียนที่มีการกำหนดให้ตรวจ ATK ขณะนี้ทางกรมควบคุมโรคเน้นว่า ขอให้ตรวจในกลุ่มเสี่ยงสูง หากนักเรียนมีคนในครอบครัวติดเชื้อ เป็นผู้สัมผัสเสียงสูงขอให้ตรวจATK ทางโรงเรียนอาจจะประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองให้กักตัวนักเรียนอยู่ที่บ้านหากมีไข้หรือมีระบบทางเดินหายใจผิดปกติ หรือมีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อ ขอให้กักตัวที่บ้าน ดังนั้น การที่โรงเรียนขอให้ตรวจ ATK 1-2ครั้งต่อสัปดาห์ ทั้งนักเรียน หรือผู้ปกครอง ถือได้ว่าทำมากกว่ามาตรฐานที่กำหนด เป็นสิ่งที่ดีแต่ขอให้แต่ละโรงเรียนพิจารณาในเรื่องของความพร้อมของผู้ปกครองด้วย และในส่วนของค่าใช้จ่ายการตรวจ ATK นั้น ในส่วนของภาครัฐสามารถให้ผู้ประกอบการ สถานประกอบการ สามารถนำค่าใช้จ่ายนี้ไปหักภาษีได้ 1.5 เท่า และในส่วนของประชาชนขอให้ติดตามรายละเอียดในเรื่องของการลดหย่อนในการใช้เครื่องตรวจ ATK
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญคือการเปิดเรียน เช่นกันกับการเปิดประเทศ หรือการผ่อนคลายกิจการกิจกรรมต่างๆ เราจำเป็นต้องทำในสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังคงมีอยู่ ถึงแม้ว่าตัวเลขจะลดลง แต่ความเสี่ยงยังคงมีอยู่ จึงขอเน้นย้ำให้ทุกคนยังคงมาตรการ DMHTT อย่างเข้มงวด เว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และขณะที่เราอยู่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ต้องระมัดระวังมาตรการส่วนบุคคลได้อย่างเข้มงวดก็อาจจะไม่เป็นผู้ติดเชื้อก็ได้ และขอให้ทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี