นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับผลกระทบเกิดภาวะน้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ได้รวบรวมปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-1 พฤศจิกายน 2564 พบว่ามีปริมาณไหลผ่านเขื่อนทั้ง 2 แห่งออกสู่อ่าวไทย ถึง 11,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เพื่อไม่ให้กระทบพื้นที่เศรษฐกิจจึงมีการควบคุมปริมาณน้ำผ่านสถานีวัดน้ำบางไทร และผันน้ำออกทางแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำบางปะกง คาดว่าสถานการณ์ลุ่มเจ้าพระยาจะเข้าสู่ภาวะปกติวันที่ 23-25 พฤศจิกายนนี้
ส่วนปริมาณน้ำในทุ่งรับน้ำที่เป็นแก้มลิงธรรมชาติ 10 ทุ่ง ในลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ได้เริ่มทยอยระบายออกแล้ว เหลือค้างทุ่งประมาณ 645 ล้าน ลบ.ม. เพื่อสำรองไว้ใช้สำหรับการทำนารอบ 2 (นาปรัง) ร่วมกับการจัดสรรน้ำจาก 4 เขื่อนหลักที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มเจ้าพระยา ซึ่งในฤดูแล้งปี 2564/65 นี้ ลุ่มเจ้าพระยา ได้รับจัดสรรน้ำทำนาปรัง ได้ทั้งสิ้นประมาณ 2.8 ล้านไร่
สำหรับสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มเจ้าพระยา นั้น เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำ 61% หรือ 8,200 ล้าน ลบ.ม. เป็นน้ำใช้การ4,422 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำ 47% หรือ 4,509 ล้าน ลบ.ม. เป็นน้ำใช้การได้ 1,659 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำเก็บกักเต็ม 100% ทำให้ฤดูแล้งนี้ มีน้ำต้นทุนรวมประมาณ 8,000 ล้าน ลบ.ม.ดีกว่าปีที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี