นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมหม่อนไหม เปิดเผยว่า กระบวนการทอผ้าประกอบด้วยเส้นพุ่งและเส้นยืนนำมาทอเป็นผืนผ้า ซึ่งในการผลิตเส้นไหมเพื่อใช้ในการทอผ้านั้น เส้นไหมที่ได้จากการสาวไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้านส่วนใหญ่จะนำมาทำเป็นไหมเส้นพุ่งเพื่อการทอผ้า เนื่องจากเส้นใยมีความยาวค่อนข้างสั้น คือประมาณ 400–800 เมตร แต่นำมาทำเป็นเส้นยืนสำหรับทอผ้าได้ยาก จึงร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ พัฒนาเทคนิคและวิธีการสาวไหมและตีเกลียว เพื่อให้สามารถทำเส้นไหมยืน และเส้นไหมพุ่งจากไหมไทยพื้นบ้านด้วยวิธีการที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เกษตรกรสามารถทำได้เอง เส้นไหมที่สาวได้มีลักษณะกลม มีการรวมตัวของเส้นไหมดี เส้นไหมมีความแน่น ไม่แตก เมื่อนำไปทอผ้าจะได้ผ้ามีคุณภาพดีมาก เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการสาวไหมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพเส้นไหมโดยรวมของประเทศ เพื่อเป็นวัตถุดิบในการทอผ้าไหมได้ผ้าไหมคุณภาพ สร้างอัตลักษณ์ให้กับไหมไทย
สำหรับกระบวนการทำเส้นไหมเส้นยืนนั้น มีเทคนิคและวิธีการที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เริ่มตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกรังไหม นำรังไหมรังดีที่ได้จากการคัดเลือกรังมาลอกปุยก่อนที่จะนำไปต้มรัง และนำรังไหมมาต้ม ซึ่งขั้นตอนนี้ มีความสำคัญมาก ต้องทำให้ถูกวิธี เนื่องจากวิธีการต้มรังไหมมีผลต่อประสิทธิภาพการสาวไหมและคุณภาพของเส้นไหม จากนั้นนำเส้นไหมมาตีเกลียวด้วยอุปกรณ์ที่พัฒนาจากเครื่องสาวไหม UB2 เพื่อตีเกลียวให้ได้ตามความต้องการที่ใช้งาน เช่น ทำเส้นยืน ตีเกลียว 400-450 เกลียว/เมตร หรือ 300-350 เกลียว/เมตรทำเส้นพุ่ง 250-300 เกลียว/เมตร หรือน้อยกว่านั้น
จุดเด่นของกระบวนการนี้ คือ สามารถนำรังไหมรังเหลืองจากไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้านมาทำเป็นเส้นไหมได้ตามความต้องการ ทั้งไหมเส้นพุ่งและไหมเส้นยืน เส้นไหมที่สาวได้มีลักษณะกลมมีการรวมตัวของเส้นไหมดี เส้นไหมไม่แตก สามารถนำมาทอผ้าไหมคุณภาพสูง หรือผ้ากิโมโนได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี