กรมหม่อนไหม ครบรอบ 16 ปี วันคล้ายวันสถาปนา 'น้อมรำลึกพระมารดาแห่งไหมไทย' มุ่งอนุรักษ์ - สืบสานภูมิปัญญา

กรมหม่อนไหม ครบรอบ 16 ปี วันคล้ายวันสถาปนา 'น้อมรำลึกพระมารดาแห่งไหมไทย' มุ่งอนุรักษ์ - สืบสานภูมิปัญญา

วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.57 น.

กรมหม่อนไหม ครบรอบ 16 ปี วันคล้ายวันสถาปนา  “น้อมรำลึกพระมารดาแห่งไหมไทย” มุ่งเน้นการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญา ส่งเสริมการใช้ผ้าไหมมาเป็นส่วนประกอบในเครื่องประดับ พร้อมส่งเสริมด้านการตลาดส่งออกโดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลางและ 3 จังหวัดชายแดนใต้เพิ่มมากขึ้น

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมหม่อนไหม เนื่องในโอกาสครบรอบ 16 ปี ภายใต้แนวคิด “น้อมรำลึกพระมารดาแห่งไหมไทย” เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมี นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ อธิบดีกรมหม่อนไหม ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกรมหม่อนไหม และเจ้าหน้าที่กรมหม่อนไหม เข้าร่วม ณ กรมหม่อนไหม กรุงเทพมหานคร


โดยนายอามินทร์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่าสิบปีที่ผ่านมา กรมหม่อนไหมได้ดำเนินงานภายใต้ภารกิจสำคัญเพื่อทำให้เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์  ระยะ 20 ปี และนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร เสริมสร้างความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรรม โดยใช้การตลาดนำการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ยกระดับมาตรฐานสินค้า เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม และได้ขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายเร่งพัฒนาสินค้า ประชาสัมพันธ์ผ้าไหมไทยให้ก้าวไกลเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมทั้งสืบสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงด้วย

“ในโอกาสวันสถานปนากรมหม่อนไหมปีที่ 16 นี้ได้มุ่งเน้นให้กรมหม่อนไหมอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญา โดยใช้ศูนย์หม่อนไหมในแต่ละศูนย์ ให้มีการส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร สามารถเยี่ยมชมและสร้างอัตลักษณ์ในเรื่องนั้น ๆ ได้ ส่งเสริมด้านการตลาด ส่งเสริมตรานกยูงพระราชทาน ส่งเสริมการใช้ผ้าไหมมาเป็นส่วนประกอบในเครื่องประดับ เช่น เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ หรือนำไปประกอบกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ร่วมกับแบรนด์ต่างชั้นนำทั้งของไทยและระดับโลก พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะ ในตลาดตะวันออกกลางด้วย เช่น การทำผ้าคลุมละหมาดของคนมุสลิม ซึ่งสามารถผลิตให้เป็นเอกลักษณ์ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งยังสามารถสร้างรายได้และอาชีพที่มั่นคงได้ด้วย” นายอามินทร์ กล่าว

ด้านนางอัญชลี สุวจิตตานนท์ อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมหม่อนไหมได้ดำเนินงานตามภารกิจและสนองงานพระราชดำริด้านหม่อนไหม และพัฒนางานด้านหม่อนไหมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตลอดจนการขับเคลื่อนนโยบายหลักของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การนำของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร เสริมสร้างความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรรม ตลอดจนพัฒนาสินค้าผ้าไหมไทยให้เป็นที่ยอมรับ เป็น Soft Power ของไทย

ซึ่งในปี 2568 กรมหม่อนไหมได้เดินหน้าส่งเสริมและพัฒนางานหม่อนไหมในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญา สามารถรวบรวมและยืนยันสายพันธุ์หม่อนและไหมไทยไว้รวมกันเกือบ 500 สายพันธุ์ นอกจากนี้ ยังถอดแบบลวดลายผ้าอัตลักษณ์ท้องถิ่นได้ถึง 30 ลวดลาย และต่อยอดศูนย์เรียนรู้ไม้ย้อมสีธรรมชาติ ซึ่งรวบรวมพืชให้สีไว้กว่า 300 ชนิด นำมาสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและสร้างรายได้จริงให้พี่น้องเกษตรกรไปแล้วกว่า 77 ล้านบาท ด้านวิจัยและนวัตกรรม มีไหมพันธุ์ใหม่ แพร่ 72 (J108 x ละหานทราย) เหมาะสำหรับทำผ้าห่มใยไหม และมีนวัตกรรมทางการแพทย์ งานวิจัยการใช้ไหมพันธุ์ J108 X นางลายสระบุรี ในการช่วย “ฟื้นฟูเต้านมหลังผ่าตัดมะเร็ง” ด้านส่งเสริมเกษตรกรและการตลาด มีการแจกจ่ายต้นหม่อนไปกว่า 2.7 ล้านต้น อีกทั้งยังเน้นการสร้างความเข้มแข็งผ่าน “เกษตรแปลงใหญ่” และโครงการพระราชดำริ สร้างทายาทหม่อนไหมรุ่นใหม่ทั้งในโรงเรียนและชุมชน และด้านมาตรฐานและความเชื่อมั่น กรมหม่อนไหมได้ตรวจรับรองมาตรฐานทั้งแปลงหม่อนและเส้นไหมจำนวนมาก โดยเฉพาะ “ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน” ที่ให้การรับรองไปกว่า 2 แสน 5 หมื่นเมตร สามารถสร้างมูลค่าตลาดรวมกว่า 710 ล้านบาท ทำให้ไหมไทยมีมูลค่าสูงและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

-(016)

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top