ครอบครัวโจ๋ 16 ปีโดนอุ้มทำร้าย ร้องกองปราบคุมคดี ส่อโยงขาใหญ่-เว็บพนัน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 กันยายน 2565 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำ นายบุญเลิศ ตาของเยาวชนชายวัย 16 ปี ซึ่งถูกอุ้มตัวไปทำร้ายและถูกทิ้งที่ข้างทางด่วนมอเตอร์เวย์ใน จ.ฉะเชิงเทรา เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เผยวงจรปิด! กลุ่มชายฉกรรจ์บุกยิงหน้าร้านมอไซค์ อุ้มเยาวชนวัย16ทิ้งมอเตอร์เวย์) เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม (บก.ป.) เพื่อขอให้รับโอนคดีนี้มาดูแล และทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวเหยื่อ เพราะดูเหมือนคดีมีปัญหา อีกทั้งเหตุเกิดต่อเนื่องหลายพื้นที่ เกรงว่าจะไม่ได้ความเป็นธรรม รวมถึงคดีนี้อาจเกี่ยวพันกับคนมีสีและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
นายบุญเลิศ เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 16 กันยายน 2565 หลานชายอายุ 16 ปี ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ติดต่อมาทำทีขอซื้อรถจักรยานยนต์ (จยย.) ที่หลานชายโพสต์ขายไว้ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการนัดดูรถจักรยานยนต์กันที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากนั้นพยานบอกว่าหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ใช้ปืนจี้บังคับเอาตัวหลานชายไป จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ตำรวจทางหลวงพบหลานชายในสภาพน้ำลายฟูมปาก และได้รับบาดเจ็บตามร่างกายสาหัส บริเวณริมทางด่วนมอเตอร์เวย์ใน จ.ฉะเชิงเทรา
ส่วนสาเหตุที่หลานชายถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มตัวไปซ้อมทรมาน อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ เพราะระยะหลังนี้ หลานชาย มีเงินจับจ่ายใช้สอยมากผิดปกติ แต่ยอมรับว่ายังไม่ได้สอบถามข้อเท็จจริงจากหลานชาย เนื่องจากยังพักรักษาตัวในไอซียู แพทย์ห้ามเยี่ยม
นายบุญเลิศ กล่าวอีกว่า เคยถามหลานว่าเอาเงินที่ไหนไปซื้อรถจักรยานยนต์ถึง 2 คันมูลค่าเป็นแสนบาท แต่หลานชายอ้างว่าชนะพนันออนไลน์ แต่ตนไม่ปักใจเชื่อ พยายามสังเกตพฤติกรรมหลาน แต่มาเกิดเรื่องเสียก่อน ซึ่งที่ผ่านมาหลานไม่เคยนำเงินมาให้ตนแม้แต่บาทเดียว แต่ยอมรับว่าหลานชายเป็นคนเที่ยวกลางคืนกลับบ้านดึกดื่นเกือบเช้าทุกวัน ได้แต่ตักเตือนสั่งสอนว่าอย่ายุ่งเกี่ยวกับสิ่งของผิดกฎหมาย
“ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนลงข่าวว่าหลานชายรับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับเว็บพนันออนไลน์ และถอนเงินออกมาจากบัญชีถึง 3 แสนบาท จนเป็นเหตุให้ถูกอุ้มนั้น ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะก่อนเกิดเหตุ 2-3 วัน ยอมรับว่าหลานชายใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอย่างหนัก แต่ข้อมูลข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรคงต้องรอถามหลานชายอีกครั้ง หลังแพทย์อนุญาตให้เยี่ยม” นายบุญเลิศ กล่าว
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า ตนได้ประสานกับพนักงานสอบสวน บช.ก. เพื่อขอให้กองปราบรามเข้ามาสอบสวนคดีนี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าพฤติกรรมของผู้ที่ก่อเหตุมีความเชี่ยวชาญ และอุกอาจ เชื่อว่าน่าจะมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และเกี่ยวข้องผู้หลักผู้ใหญ่บางคนให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทางครอบครัวเกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะโกรธแค้นที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี อาจมาก่อเหตุกับครอบครัวเช่นเดียวกับหลายชายวัย 16 ปี
ขณะที่พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา พร้อมทำการสอบปากคำนายบุญเลิศทันที ส่วนกรณีรับโอนคดีหรือไม่นั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นผู้พิจารณา
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี