วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'บิ๊กโจ๊ก'แถลง 2 คดีสำคัญ จับแก๊งต่างชาติปล้นทรัพย์-ไล่ออกตำรวจรีดเงิน

'บิ๊กโจ๊ก'แถลง 2 คดีสำคัญ จับแก๊งต่างชาติปล้นทรัพย์-ไล่ออกตำรวจรีดเงิน

วันพุธ ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 07.46 น.
Tag : บิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ไล่ออกตำรวจ อาชญากรรม
  •  

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 4 ตุลาคม 2565 ที่ห้องประชุม สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.แถลงข่าว 2 คดีสำคัญที่เป็นที่สนใจต่อสังคม สื่อมวลชน และกระทบต่อภาพลักษณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยมี พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม


สำหรับการแถลงข่าวการคดีแรกเป็นคดีจับกุมผู้ต้องหาแก๊งชาวต่างชาติร่วมกันปล้นทรัพย์ชาวรัสเซีย โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย.65 เวลาประมาณ 15.10 น.ขณะที่ นายเยฟกินี อับดุลลิน (MR.EVGENII ABDULLIN) สัญชาติรัสเซีย ผู้เสียหายกับภรรยา ได้ไปนั่งที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที ได้มีชายชาวต่างชาติจำนวน 5 คน เดินเข้ามาหาผู้เสียหาย ชายคนหนึ่งได้พูดกับผู้เสียหายว่าให้ผู้เสียหายนำเงินมาให้จำนวน 3,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมพูดข่มขู่ให้ผู้เสียหาย ถึงแม้ นายเยฟกินี อับดุลลิน จะบอกว่าไม่มีเงิน กลุ่มคนร้ายจึงได้เข้ามาดึงโทรศัพท์ออกจากมือของผู้เสียหาย และใช้กำลังประทุษร้ายต่อผู้เสียหาย เพื่อบังคับให้ผู้เสียหายโอนเงินให้

ทั้งนี้ ผู้เสียหายเกิดความกลัวจึงได้โอนเงินสกุลบิทคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิตอลมูลค่าประมาณ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ไปยังบัญชีแอพพลิเคชั่น Tronlink (กระเป๋าเงินดิจิทัล) ของกลุ่มคนร้าย หลังจากนั้นกลุ่มคนร้าย จำนวน 4 คน ได้เดินออกไปขึ้นรถยนต์ตู้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฮค 4666 กทม.ที่จอดอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ เหลือเพียงนายซัลมานที่ได้พูดจาข่มขู่และบอกผู้เสียหายว่าให้โอนเงินส่วนที่เหลือมาให้ พร้อมกับให้หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อไว้ จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันสีแดงออกไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยงานร่วมกันสืบสวนติดตามตัวกลุ่มชายชาวต่างชาติดังกล่าว ปรากฎพบกลุ่มคนร้ายมี 6 คน ได้แก่ 1.นายอังเดร นิจโกรอดต์เซฟ (MR.ANDREY NIZHEGORODTSEV) สัญชาติคาซัคสถาน อายุ 37 ปี (ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2565) ทำหน้าที่ตรวจสอบที่อยู่ผู้เสียหาย/จัดหารถยนต์ตู้และที่พัก 2.นายซัลมาน ยูมาเยฟ (MR.SALMAN UMAYEV) สัญชาติคาซัคสถาน อายุ 56 ปี (ออกหมายจับ) ทำหน้าที่ร่วมกันพูดจาข่มขู่ให้ผู้เสียหายเกิดความกลัว 3.นายคอบาคอฟ อาสคาย (MR.GORBAKOV ASKHAB) สัญชาติคาซัคสถาน อายุ 49 ปี (ออกหมายจับ) ทำหน้าที่ร่วมกันพูดจาข่มขู่และใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหาย

4.นายซิงกิส อามาดอฟ (MR.TSCHINGIS AKHMADOV) สัญชาติเยอรมัน อายุ 39 ปี (ออกหมายจับ) ทำหน้าที่ร่วมกันพูดจาข่มขู่ให้ผู้เสียหายเกิดความกลัว/ล่ามแปลภาษา 5.นายซิง มิคาเอล (MR. SINGH MICHAEL) สัญชาติเยอรมัน อายุ 35 ปี (ออกหมายจับ) ทำหน้าที่ร่วมกันพูดจาข่มขู่และใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหาย และ 6.นายดานิล อูเกย์ (MR.DANIL UGAY) สัญชาติรัสเซีย อายุ 42 ปี (ออกหมายจับ) ทำหน้าที่ ขับรถยนต์ตู้คันก่อเหตุ

โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันปล้นทรัพย์, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือยอมจำนนต่อสิ่งนั้น” ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัว รวมทั้งดำเนินการประสานองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) เพื่อออกหมายแดง (Red Notice) เพื่อดำเนินการจับกุมตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับคดีแก๊งต่างชาติร่วมกันปล้นสกุลเงินดิจิทัลมูลค่า 1.8 ล้านบาท มีผู้ต้องหา 6 คน หลบหนีออกนอกประเทศ 5 คน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน คือ นายอังเดร นิจโกรอดต์เซฟ สัญชาติคาซัคสถาน อายุ 37 ปี ขณะนี้ฝากขังอยู่ที่เรือนจำอำเภอเกาะสมุย ซึ่งทางตรวจคนเข้าเมืองได้เพิกถอนวีซ่าพร้อมขึ้นบัญชีดำถาวร หลังจากการตรวจสอบพบอีกว่านายอังเดร อยู่ประเทศไทยมานาน 18 ปี เปิดบริษัททำธุรกิจรถเช่าอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี เข้าข่ายนอมินี จึงได้ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มคดีนอมินีกับนายอังเดร และจับกุมคนไทยที่มาเป็นนอมินีให้ และเตรียมเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่อนุญาตให้นายอังเดรเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรด้วย

เช่นเดียวกับ นายเยฟกินี อับดุลลิน สัญชาติรัสเซีย ผู้เสียหาย ที่มาเปิดบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่่ประเทศไทยมานาน 3 ปี โดยใช้วีซ่าธุรกิจ ได้สั่งการให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าไปตรวจสอบการทำธุรกิจว่าเข้าข่ายนอมินีหรือไม่ หากพบว่าใช้ก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย ดำเนินการกวดขันชาวต่างชาติที่อยู่เกินกำหนดระยะอนุญาต หรือโอเวอร์สเตย์ ตรวจบริษัท/หจก.ที่อาจมีคนต่างชาติเป็นเจ้าของโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี และการอนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักรให้พิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้สอดคล้องกับเหตุผลตามวีซ่าหรือสิทธิในการเดินทางเข้ามา

ส่วนคดีที่สอง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23กันยายน 65 ได้มี น.ส.สุวนันท์ (สงวนนามสกุล) ผู้กล่าวหา และนายอภิชัย (สงวนนามสกุล) ในฐานะพยาน เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ จ.ส.ต.นายหนึ่ง ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ สภ.เกาะสมุย พร้อมให้การว่าเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 65 เวลาประมาณ 23.30 น. น.ส.สุวนันท์ ผู้กล่าวหา ได้มายังหน่วยบริการประชาชนบ้านหน้าทอน เนื่องจากนายชัยวัฒน์ สามี ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสมุย จำนวน 6 นาย จับกุมตัว มายังหน่วยบริการประชาชนบ้านหน้าทอน พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 2 เม็ด ก่อนจะถูกตำรวจชื่อ จ่าเบียร์ ได้เรียกรับเงินเพื่อไม่ให้นำเดินคดีกับสามีเป็นจำนวน 50,000 บาท และมีการต่อรองราคากัน จนกระทั่งตกลงจ่ายเงินกันเพียง 6,000 บาท และขณะอยู่ที่หน่วยบริการประชาชน จ่าเบียร์ได้พาผู้กล่าวหาเข้าไปพูดคุยในห้องอีกห้องหนึ่ง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องที่สามีอยู่และได้พูดจาคุกคามทางเพศ ซึ่งผู้กล่าวหาได้อัดคลิปเสียงการพูดคุยขณะอยู่ในห้องดังกล่าวไว้ หลังจากที่จ่ายเงินจำนวน 2,000 บาทแล้ว ผู้กล่าวหากับสามีก็กลับบ้าน โดยผู้กล่าวหามีพยานหลักฐานคลิปเสียงที่ได้อัดคลิปเสียงไว้ระหว่างเกิดเหตุ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการถอดคลิปเสียงที่ได้ยินการสนทนากันระหว่างผู้กล่าวหา

จากการสอบสวนผู้กล่าวหาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ข่มขู่ พูดจาคุกคามทางเพศ และเรียกรับสินบนอันเป็นความผิดตามกฎหมาย เข้าลักษณะการกล่าวหาเจ้าพนักงานว่ากระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 159 ซึ่งสำนวนคดีอาญาดังกล่าวอยู่ในอำนาจการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตามตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 28 (2) เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า คดีนี้ผลการสอบพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดจริง และเป็นคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย ระหว่างดำเนินคดีอาญาจึงให้ออกจากราชการไว้ก่อน

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เดินหน้าปราบ\'แว้น\' \'ปิดกรุงเทพซิ่ง 2568\' จับ 18 ผู้ต้องหา ยึดรถ 17 คัน เดินหน้าปราบ'แว้น' 'ปิดกรุงเทพซิ่ง 2568' จับ 18 ผู้ต้องหา ยึดรถ 17 คัน
  • เร่งล่า\'ก๊ก อาน\' ตัวการใหญ่แก๊งคอลฯ ยังไม่พบโยงนักการเมืองไทย เร่งล่า'ก๊ก อาน' ตัวการใหญ่แก๊งคอลฯ ยังไม่พบโยงนักการเมืองไทย
  • แจ้งข้อหา 7 ตร. ปมรุมกระทืบ\'ลูกชายอดีตตำรวจ\'เหตุเข้าใจผิดแหกด่าน แจ้งข้อหา 7 ตร. ปมรุมกระทืบ'ลูกชายอดีตตำรวจ'เหตุเข้าใจผิดแหกด่าน
  • \'ไทย\'ผนึกกำลัง\'ตร.สากล\' ลุยกวาดล้างแก๊งคอลฯในกัมพูชา 'ไทย'ผนึกกำลัง'ตร.สากล' ลุยกวาดล้างแก๊งคอลฯในกัมพูชา
  • รวบ 2 หญิงไทย รับจ้างข้ามแดนเปิด\'บัญชีม้า\'ให้แก๊งคอลฯ รวบ 2 หญิงไทย รับจ้างข้ามแดนเปิด'บัญชีม้า'ให้แก๊งคอลฯ
  • หนุ่มเมียนมาหึงโหด! ลวงแฟนสาวเข้าม่านรูด รัดคอดับคาห้อง หนุ่มเมียนมาหึงโหด! ลวงแฟนสาวเข้าม่านรูด รัดคอดับคาห้อง
  •  

Breaking News

เกษตรกรกำแพงเพชร บุกพรรคประชาชน หลัง'ไอซ์'ปูดงบ 'ไผ่' หวั่นเดือดร้อนถูกตัดงบ

‘ไผ่’ซัด‘รักชนก’เป็นเหตุ‘ม็อบชาวกำแพงเพชร’บุกศูนย์ ปชน. โวยพาดพิงงบพัฒนา

‘ไผ่’ตอก‘ไอติม’อยู่แต่ กทม.ไม่รู้ สส.บ้านนอกทำงานแบบไหน กวักมือไปดูงานกำแพงเพชร

ตำรวจบางละมุง 'รวบสองคู่หู'ลักเหล็กอลูมิเนียม อ้าง!ตกงาน-เลี้ยงแม่ป่วย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved