ทนายBTS เชื่อคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดยกฟ้องกรณีรฟม.แก้ไขหลักเกณฑ์คัดเลือกประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มไม่ผิด จะไม่ส่งผลกระทบคดีอื่นที่ค้างในศาลอีก 3 คดี
วันที่ 1 มีนาคม 2566 นายโกสิทธิ์ ประสิทธิ์เวโรจน์ ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือBTS กล่าวภายหลังรับฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีที่บีทีเอสยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายจากกรณีมีมติแก้ไขเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาผู้ชนะการประเมินของเอกสารการคัดเลือกเอกชนโครงการดังกล่าว ว่าทางบีทีเอสรับทราบคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดแล้ว ซึ่งวันนี้คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเป็นเรื่องอำนาจของคณะกรรมการคัดเลือกฯโครงการดังกล่าว ในส่วนของการแก้ไขหลักเกณฑ์ในการประมูลครั้งก่อน โดยศาลระบุว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่1 และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2ไม่ได้เป็นการกระทำที่ละเมิด ชี้ว่า รฟม. มีอำนาจในการแก้ไขหลักเกณฑ์ และไม่ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน รวมถึงไม่ได้มีการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การประมูลครั้งล่าสุดยังมีการค้างอยู่ ฉะนั้น
เราต้องรอติดตามผลคำพิพากษาของศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุดในคดีอื่น2-3 คดีของบีทีเอสที่ยังคงค้างอยู่ในศาลปกครอง ซึ่งเชื่อว่าคดีที่ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้องในวันนี้(1 มี.ค.)นั้น ไม่มีผลกระทบต่อคดีอื่นของบีทีเอสที่ยังคงค้างอยู่ในศาลปกครอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีคงค้างที่ทางบีทีเอสยื่นฟ้องประกอบด้วย คดีที่ 1 หมายเลขดำที่ อ. 1455/2565 กรณีบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม กรณีมีมติในคราวประชุม เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2564 ที่เห็นชอบให้ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนฯ ดังกล่าว ซึ่งคดีนี้องค์คณะได้มีการนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ก.พ.2566 คาดว่าอีกไม่นานจะมีคำพิพากษา
คดีที่ 2 คำร้องที่ 1525/2565 นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ และพรรคก้าวไกลฟ้องว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติและกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี กรณีผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และที่ 3 ได้ออกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในลักษณะที่ขัดต่อมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2563 โดยคดีนี้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา และผู้ฟ้องคดีได้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งอยู่ระหว่างศาลปกครองสูงสุดจ่ายสำนวนคดีให้กับองค์คณะ
และคดีที่ 3 หมายเลขดำที่ 1646/2565กรณี บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯจำกัด (มหาชน) คณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม 2 คนกรณีออกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 24 พ.ค.2565 และออกเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนโดยเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติ และหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนให้แตกต่างจากหลักเกณฑ์เดิมตามประกาศเชิญชวนฉบับเดือน ก.ค.2563 ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่ชอบด้วยกฎหมายและมติครม. แล้วจึงมีลักษณะเป็นการกีดกันการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่งคดีนี้ศาลอยู่ระหว่างอนุญาตให้ผู้ฟ้องคดีขยายระยะเวลายื่นเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับค่าเสียหายออกไปจนถึงวันที่ 7 มี.ค.2566 หากไม่ยื่นในระยะเวลาดังกล่าวก็จะถือว่าไม่มีหลักฐานในส่วนนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศาลปกครองสูงสุด พิพากษายืนยกฟ้อง'บีทีเอส' เรียกค่าเสียหายประมูล'สายสีส้ม'
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี