15 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 3 สมาคมตำรวจ ประกอบด้วย พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายกสมาคมตำรวจ พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร นายกสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ นายกสมาคมพนักงานสอบสวน ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ระบุว่า สืบเนื่องจากสื่อมวลชนได้เผยแพร่หนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง ถึงกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สว.สส. สน.พญาไท กรณีการร้องขอหมายจับและการเพิกถอนหมายจับ สว.คนดัง
ทางสมาคมตำรวจ สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสมาคมพนักงานสอบสวน ในฐานะองค์กรวิชาชีพของข้าราชการตำรวจ ซึ่งมีจริยธรรมและจรรยาบรรณที่ต้องธำรงรักษาไว้ ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ ดังต่อไปนี้
ประเด็นที่ 1 ในคดีนี้เดิม พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ ในฐานะเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เคยมาดำเนินการขอหมายจับนายทุน มินหลัด กับพวกรวม 9 คน ซึ่งต่อมาได้มีการจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีแล้ว 5 คน ดังนั้น ตำรวจไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนหรือพนักงานสอบสวนย่อมมีอำนาจร้องขอให้ศาลออกหมายจับได้ หากเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ เกี่ยวข้องกับการสืบสวนหรือสอบสวนคดีที่ร้องขอออกหมายนั้น และต้องมาให้ผู้พิพากษาสอบถามก่อนออกหมาย ทั้งนี้ ตามข้อ 4 แห่งข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการออกคำสั่งหรือหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2565
ประเด็นที่ 2 การขอหมายจับของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติดปัจจุบันการออกหมายจับจะต้องมีการนำข้อมูลมาลงในระบบ CRIME ของตำรวจซึ่งจะทำการเชื่อมข้อมูลไปยังระบบของศาล ทำให้ปัญหาการออกหมายลอยไม่อาจเกิดขึ้นได้
ประเด็นที่ 3 อำนาจการจับของเจ้าพนักงานตำรวจ โดยหลักจะต้องมีคำสั่งศาลหรือหมายจับเว้นแต่ ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนตาม ป.วิ.อ. มาตรา 78 อาจมีการจับได้โดยไม่ต้องมีคำสั่งศาลหรือหมายจับ ดังนั้น การออกหมายจับจึงมิใช่กรณีจำเป็นเร่งด่วน หากแต่เป็นขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานตามปกติของฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวนทั้งนี้ การขอออกหมายจับสามารถทำได้ภายใต้หลักมีพยานหลักฐาน ตามสมควรว่าน่าจะกระทำความผิดและไม่มีระเบียบ คำสั่ง ที่กำหนดให้ต้องเสนอเอกสารสำนวนต่อผู้บังคับบัญชาระดับ ผกก.- ผบก.ให้พิจารณาก่อนขอหมายจับแต่ประการใด
ประเด็นที่ 4 กฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ กลับหลักการเดิมที่จะต้องขออนุมัติจับกุมต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. ก่อน จึงไปขอศาลออกหมายจับหรือแจ้งข้อหา แต่ปัจจุบันให้ขออนุมัติออกหมายจับต่อศาลก่อน ถึงจะไปขออนุมัติแจ้งข้อหาต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. ดังนั้น หมายจับที่ศาลออกให้ก่อนจะได้รับอนุมัติจากเลขาธิการ ป.ป.ส. ให้แจ้งข้อหาย่อมเป็นหมายจับที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ต่อมาจะจับกุมตัวผู้ต้องหาได้โดยที่เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังไม่อนุมัติให้แจ้งข้อหาก็ถือว่าเป็นการจับโดยชอบ เพียงแต่ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาได้แจ้งได้เพียงว่าได้ถูกจับตามหมายเท่านั้น
ประเด็นที่ 5 คำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 เป็นคำสั่งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ใช้บังคับกับพนักงานสอบสวนเท่านั้น หาได้ใช้บังคับกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไม่
ประเด็นที่ 6 ศาลใช้ดุลพินิจชอบด้วยกฎหมายแล้วควรต้องปฏิบัติตาม ซึ่งในอดีตเคยมีการยื่นคำร้องขอเพิกถอนหมายจับอดีตอธิบดีดีเอสไอ แต่ศาลยกคำร้องโดยให้เหตุผลว่าเป็นอำนาจเฉพาะของผู้พิพากษา ที่เมื่อสั่งคำร้องโดยชอบแล้วย่อมมิอาจเพิกถอนได้ ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อศาลพิจารณาออกหมายจับสมาชิกวุฒิสภาไปโดยชอบแล้ว การจะสั่งเพิกถอนในภายหลังจะต้องมีเหตุตามกฎหมาย ข้อบังคับ หรือระเบียบเป็นหลักในการพิจารณา หาใช่อ้างเพียงเหตุผิดหลง
ทั้งนี้ สมาคมตำรวจ สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ สมาคมพนักงานสอบสวน ขอเป็นกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติชอบและจะยืนหยัดตามหลักการของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนโดยเสมอภาคต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี