กองปราบฯแจงคืบหน้าคดี“แอม ไซยาไนด์” สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 90  เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงผลตรวจทางวิทยาศาสตร์การแพทย์เท่านั้น ล่าสุดกลับคำรับสารภาพในบางคดี  ร้องขอพบ"บิ๊กโจ๊ก"สอบปากคำในคุกอีกรอบ

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึง ความคืบหน้าคดีนางสรารัตน์ หรือ แอม รังสิวุฒาภรณ์ วางยาฆ่าชิงทรัพย์เหยื่อว่า น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ "ก้อย" อายุ 32 ปี ว่า มีการสอบปากคำพยานบุคคลสอบไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงผลตรวจวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานที่พบเพิ่มเติมจากที่ไปเจอในรถและแคปซูลยา อยู่ระหว่างการดำเนินการนำมารวบรวมประกอบสำนวน 

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า ส่วนคดีอื่นๆนั้น ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในฐานะหัวหน้าคณะสืบสวนสอบสวน ได้กำชับให้ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งประสานข้อมูลทำงานร่วมกันเพื่อเร่งคลี่คลายคดี ส่วนกรณีจะมีการออกหมายจับบุคคลอื่นเพิ่มเติมหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างดำเนินการ หลังฝ่ายสืบสวนพบพยานหลักฐานว่ามีการยักย้ายถ่ายเทพยานหลักฐาน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นบุคคลใด ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ต้องรอให้ทางฝ่ายสืบสวนที่พบหลักฐานการกระทำผิดเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) จากนั้นจึงจะมีการเชิญตัวบุคคลดังกล่าวมาทำการแจ้งข้อกล่าวหา ตามขั้นตอนต่อไป

ขณะที่เว็บไซต์ Thai PBS รายงานว่า "แอม" ขอกลับคำให้การเป็นรับสารภาพในบางคดี และยังอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติมในเรือนจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ไปรับตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามีของแอม มาร่วมสอบสวนที่ทัณฑสถานหญิงกลางด้วย

เบื้องต้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า "แอม" ประสานผ่านชุดสืบสวนร้องขอให้เข้าไปสอบปากคำด้วยตัวเอง ส่วนจะรับสารภาพหรือไม่ ขอเข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องหาให้ละเอียดก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางเข้าไปทัณฑสถานหญิงกลาง

-001