ไม่ได้ลงมือฆ่าหั่นศพ! ถูกโอลาฟ ขู่ฆ่าอุ้มน้องสาวแฟนสาว ไปขายให้กับแก๊งเอาท์ลอว์ที่เขมร พ่อแม่เชื่อลูกถูกจัดฉาก ให้ตกเป็นผู้ร่วมขบวนการสังหารโหด
13 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้าคดี อุ้มฆ่าหั่นศพ นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค (MR.HANS PETER RALTER MACK) อายุ 62 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชาวเยอรมัน ซึ่งหลังจากตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้ทำการจับกุม นาย ชาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี สัญชาติไทย เชื้อชาติปากีสถาน 1 ในผู้ต้องหา ที่ถูกออกหมายจับ ร่วมกันฆ่าและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ นายฮันส์ ปีเตอร์ มุค นักธุรกิจชาวเยอรมัน
โดยได้นั่งแท็กซี่ไปเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อซ่อนตัว ในเขตจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนที่ทางโรงแรมจะแจ้งเบาะแสไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นที่มาของการจับกุมตัวได้ดังกล่าว ภายหลังการถูกจับกุม ผู้ต้องหา ได้ร้องขอทนายและติดต่อญาติ ก่อนที่ตำรวจจะมีการบันทึกจับกุม ลงบันทึกประจำวัน และส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้ดำเนินคดีต่อที่ สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี
ต่อมาเมื่อเวลา 23.50 น. (12 ก.ค.66) พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมกับตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี ได้คุมตัว นาย ชาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี สัญชาติ ไทย เชื้อชาติปากีสถาน เดินทางกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.หนองปรือ ก่อนจะมีลงบันทึกประจำวัน แล้ว นำตัวเข้าห้องขังทันที
ระหว่างนำตัวลงจากรถ นักข่าวพยายามถามว่า ได้ลงมือก่อเหตุจริงหรือไม่ แล้วทำไมถึงทำ และเรื่องถูกขมขู่ จับแฟนสาวไว้เป็นตัวประกันจริงหรือไม่ ซึ่งนายซาฮ์รูค ตอบกลับเพียงว่า “เดี๋ยวก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยให้การทีเดียว” ในน้ำเสียงสั่นคลอ และสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา ก่อนจะถูกนำตัวเข้าห้องขังทันที โดยถูกห้องขังถัดไป ต่อจากห้องขังของนายโอลาฟ ธรอสเทน บริงก์มันน์
ระหว่างนั้นยังพบว่า มีพ่อแม่และพี่ชาย ของนายชาฮ์รูค เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย พร้อมทั้งร้องขอตำรวจ ขอเห็นหน้าลูกชาย ก่อนเข้าห้องควบคุมขัง หลังจากมีการพบหน้ากันแล้ว ทั้งพ่อและแม่ของนายชาฮ์รูค มีสวมกอดร่ำไห้เสียหาย เมื่อเห็นลูกชายตกอยู่ในสภาพดังกล่าว
ด้านพ่อแม่ ของ นายชาฮ์รูค คือนายซาบาส อายุ 52 ปี และนางแพค อายุ 56 ปี เจ้าของธุรกิจนำเข้าอาหารทะเล พื้นที่จังหวัดภูเก็ต เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า รู้จักกับผู้หญิงคนอ้วนๆ ก็คือนางเพทรา คริสเติล กรุนด์กริฟ อายุ 54 ปี นายหน้าซื้อขายที่ดินชาวเยอรมัน โดยย้อนไปเมื่อ 2 ปี นางเพทรา ได้มาติดต่อร่วมทำธุรกิจอาหารทะเล โดยขอให้ส่งของมาขายในพื้นที่เมืองพัทยา ชลบุรี
แต่พอมีการเจรจาพูดคุย เริ่มเห็นว่า นางเพทรา ไม่ค่อยโอเค และไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือ ในเรื่องการร่วมทำธุรกิจ เนื่องจากนางเพทรา ให้ทางเราสั่งซื้อของเข้ามาก่อน โดยจะจ่ายเงินให้ภายหลัง ทำให้การเจรจาในครั้งนั้นล่มลงไป จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย แต่ก็มาทราบภายหลังว่า ลูกชายยังติดต่อกับนางเพทรา อยู่ในเรื่องร่วมกันทำธุรกิจนายหน้าที่ดิน พยายามห้ามลูกชายแล้วแต่ก็ไม่ยอมฟัง คอยถามลูกว่า เคยได้เงินหรือไม่ ลูกชายก็บอกว่าเคย 1 ครั้ง เรื่องที่ดินในภูเก็ต จากนั้นทางครอบครัวก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าลูกชาย ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพดังกล่าว
ผู้เป็นแม่ ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ถ้าลูกทำผิดแม่จะไม่เข้าข้าง โดยปกติแล้ว นายชาฮ์รูค จะไม่โกหกแม่ หากเรื่องไหนจะไม่ทำให้แม่ลำบากใจ ก็จะพูดทั้งหมด แต่ในครั้งนี้ได้คุยกับลูก ขณะถูกตำรวจเข้าจับกุมตัวที่ จังหวัดกาญจนบุรี ลูกชายร้องไห้หนักมาก แล้วบอกว่า “ผมสาบานๆ ผมไม่ได้ทำ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมโดนข่มขู่ ผมเป็นห่วงน้องสาว ผมห่วงเมียผม มันขู่จะลักพาตัวไปที่เขมร”
โดยมีนายโอลาฟ เป็นคนขู่ หากไม่ทำตาม อีกทั้ง นายโอลาฟ รู้ว่า เมียของ นายชาฮ์รูค อยู่ที่ไหน อีกทั้งเชื่อว่า ลูกถูกบังคับให้ทำ และถ้าหากทำจริง ก็ยังเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ โดยอาจถูกจัดฉากให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ โดยตอนแรกที่เห็นภาพข่าว คนร้ายนั่งเกาะตู้แช่แข็งอยู่ท้ายรถกระบะ ตนพยายามเอาภาพไปให้ทุกคนในครอบครัวดู แต่ก็ไม่มีใจ จนมาเห็นลูกถูกออกหมายจับ รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
นายชาฮ์ลี อายุ 30 ปี พี่ชาย ของนาย ชาฮ์รูค คารีม อุดดิน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องชาย ในช่วงเวลาสั้นๆ ทางโทรศัพท์ อีกทั้งโดยปกติแล้ว น้องชายจะไม่เคยร้องไห้ ให้ได้ยิน แต่ครั้งนี้ ร้องไห้หนักมาก โดยว่า “ผมกลัว ผมถูกโอลาฟขู่ฆ่า และ จะมีการลักพาตัว แฟนสาว และ น้องสาวแฟน ไปขายกับแก๊งของมันที่เขมร”
ส่วนรายละเอียดมากกว่านี้ ขอพูดคุยกับน้องชายอีกครั้ง โดยเชื่อว่า จากที่น้องชาย พูดเชื่อว่า น้องถูกหลอกให้มาก่อเหตุในครั้งนี้ และกล้าที่จะพูดว่า น้องชายไม่มีนิสัยแบบนี้ ซึ่งเพื่อนในกลุ่มที่ภูเก็ต จะรู้กันดีว่านายชาฮ์รูด เป็นคนจิตใจดี แต่แค่ชอบในรอยสัก และชอบขับขี่รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ โดยกลุ่ม ชื่อว่า “81” และยังเชื่อว่าน้องชาย ไม่ใช่คนฆ่า ส่วนน้องสาวและแฟนสาวของน้องชาย ยังคงปลอดภัยดี.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี