อายุความในคดีอาญาที่เกี่ยวกับข้อหาที่รุนแรง แม้จะมีอายุความที่ยาวแต่ในทางปฏิบัติจริงนั้น สามารถเกิดช่องว่างหรือปัญหาเรื่องการฟ้องคดีขาดอายุความได้เนื่องจากระยะเวลาในการติดตามตัวผู้กระทำความผิด ระยะเวลาทำการสอบสวน ระยะเวลาในการดำเนินการชั้นพนักงานอัยการ รวมถึงระยะเวลาในการดำเนินการของหน่วยงานอื่นที่มีอำนาจสอบสวน มักจะมีระยะเวลานาน และอาจส่งผลให้ไม่สามารถฟ้องคดีทันภายในกำหนดอายุความตามกฎหมาย ซึ่งในคดีอาญานั้นปัญหาเรื่องอายุความเป็นปัญหาสำคัญแม้จำเลยไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ ศาลก็จะต้องมีคำสั่งยกฟ้องจำเลยเสมอ หากปรากฏข้อเท็จจริงแน่ชัดว่าคดีขาดอายุความ
แต่สำหรับ พ.ร.บ.อุ้มหายทรมาน นั้น ได้วางหลักเกณฑ์เรื่องอายุความ ที่เป็นประโยชน์กับผู้เสียหายไว้ในกฎหมายแล้วคือมาตรา 7 ผู้ใดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐควบคุมตัว หรือลักพาบุคคลใด โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิเสธว่ามิได้กระทำการดังกล่าว หรือปกปิดชะตากรรมหรือสถานที่ปรากฏตัวของบุคคลนั้นซึ่งส่งผลให้บุคคลนั้นไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานกระทำให้บุคคลสูญหาย
การกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งให้ถือเป็นความผิดต่อเนื่องจนกว่าจะทราบชะตากรรมของบุคคลนั้น
มาตรา 30 อายุความสำหรับความผิดตามมาตรา 7 มิให้เริ่มนับจนกว่าจะทราบชะตากรรมของผู้ถูกกระทำให้สูญหาย ในบทบัญญัติทั้ง 2 มาตราดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ตามมาตรา 7 วรรค 2 กฎหมายบัญญัติ และตีความชัดเจนว่าเป็นการกระทำความผิดต่อเนื่องนั่นหมายความว่าหากมีการกระทำความผิดที่ต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จนกว่าจะพบตัวหรือทราบชะตากรรมของผู้ถูกกระทำให้สูญหาย
รวมทั้งในมาตรา 30 ได้กำหนดเรื่องอายุความไว้ชัดเจนว่าให้เริ่มนับอายุความเมื่อทราบชะตากรรมของผู้ที่สูญหาย ดังนั้นหากในกรณีที่วันที่สูญหายกับวันที่ทราบชะตากรรมมีระยะเวลาหลายปี ปัญหาเรื่องอายุความและการตีความในกฎหมายดังกล่าว จะง่ายดายและชัดเจนเนื่องจากโอกาสที่คดีขาดอายุความจะมีน้อยเพราะอายุความเพิ่งเริ่มนับในวันที่ทราบชะตากรรมของผู้ที่สูญหายเท่านั้น ไม่ได้เริ่มนับตั้งแต่วันที่บุคคลนั้นสูญหายแต่อย่างใด ซึ่งจะช่วยให้การประวิงคดีของบุคคลที่เกี่ยวข้องจะยากขึ้นเพราะ โอกาสที่คดีจะขาดอายุความมีน้อยลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี