กรณีพบสารแคดเมียม ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดชลบุรี ไม่ใช่ปัญหาครั้งแรกที่เกิดในประเทศไทย ซึ่งก่อนจะย้อนอดีตในทางคดี มาทำความรู้จักกับสารแคดเมียมกันสักนิด
แคดเมียม (Cadmium) มีสูตรทางเคมีคือ Cd) เป็นแร่โลหะหนักชนิดหนึ่งถูกนำมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมหลายประเภท อาทิ เคลือบเงาผิวโลหะต่างๆ ใช้เป็นสารเพิ่มความคงตัวของพลาสติก จำพวกพีวีซี ผลิตเม็ดสีใช้ผลิตแบตเตอรี่ขนาดเล็ก
นอกจากนี้ ยังพบแคดเมียมปะปนอยู่กับแร่ธาตุอื่นๆ เช่น แร่สังกะสี แร่ตะกั่ว หรือทองแดง ซึ่งในการทำเหมืองแร่สังกะสี จะมีแคดเมียมเกิดขึ้นจากกิจการเหมืองแร่ดังกล่าว
ผลกระทบต่อสุขภาพจากแคดเมียม
อาการพิษเฉียบพลัน ได้แก่พบในกรณีหายใจเอาไอระเหยของแคดเมียมเข้าไป ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ หายใจลำบาก หรือเจ็บหน้าอก
อาการพิษเรื้อรัง ได้แก่ การได้รับสารแคดเมียมเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อความเป็นพิษของไต กระดูก และอาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด หากสัมผัสสารนี้มาอย่างยาวนานต่อเนื่อง
สำหรับพิษต่ออวัยวะที่สำคัญ คือ พิษต่อไต โดยจะมีการอักเสบที่ไต ทำให้ไตสูญเสียการทำงาน และอาจทำให้เกิดไตวายเรื้อรังได้ในที่สุด ซึ่งการเกิดความผิดปกติของไตนี้จะเป็นแบบถาวร แม้ไม่ได้รับแคดเมียมเข้าสู่ร่างกายแล้วไตก็ไม่สามารถกลับคืนสภาพเดิมได้ ส่วนพิษต่อกระดูก คือ แคดเมียมจะเข้าไปสะสมอยู่ในกระดูก เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนและอาจมีอาการปวดกระดูกอย่างมากโดยเฉพาะที่กระดูกสะโพก ซึ่งเป็นอาการของโรคอิไต-อิไต โดยคนกลุ่มนี้จะมีอาการกระดูกเปราะ แตกหักง่าย พิษของแคดเมียมยังเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ เช่น มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนี้แคดเมียมยังมีส่วนที่ทำให้อาการของโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ เพิ่มขึ้นอีกด้วย
โดยในอดีตโรงงานในประเทศญี่ปุ่น ปล่อยสารแคดเมียมมากับน้ำเสียของโรงงาน ทำให้เกิดการปนเปื้อนของแคดเมียมในอาหารโดยพบว่าผู้ป่วยมากกว่าพันคน เกิดอาการเจ็บป่วยอย่างทรมาน โดยบริเวณ แขน ขา สะโพก และบริเวณฟันจะพบมีวงแหวนสีเหลืองติดกับเหงือก เรียกว่า วงแหวนแคดเมียม และจะมีอาการปวดร้าวสะสมนานถึง20-30 ปี และเมื่อร่างกายเดินไม่ไหว ก็จะเกิดการกดกระดูกสันหลัง เรียกว่า โรคอิไต-อิไต (Itai-Itaidisease)
เกี่ยวกับการรั่วไหลของสารแคดเมียมในประเทศไทย เคยมีการรั่วไหลครั้งใหญ่เมื่อปี 2547 ที่พบการปนเปื้อนของสารแคดเมียมในระดับสูงเกินมาตรฐานหลายเท่าตัว ในแหล่งน้ำ ดินทำการเกษตร และพืชผลการเกษตรของชาวบ้านในท้องที่ 3 ตำบล คือ ตำบลพระธาตุผาแดง แม่ตาว และแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ซึ่งภายหลังสภาทนายความฯได้ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยทำการยื่นฟ้องผู้ประกอบกิจการ และมีอีกหลายคดีที่ผู้เสียหายได้ยื่นฟ้องต่อศาลทั้งคดีแพ่งและคดีปกครอง โดยในแต่ละคดีใช้เวลาในการพิจารณาทั้งในศาลชั้นต้นไปจนถึงศาลฎีกาค่อนข้างจะนานเนื่องจากในสมัยก่อนยังไม่มีระบบการพิจารณาคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ในการฟ้องคดีนอกจากจะดำเนินการยึดฟ้องโดยมีโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายจำนวนหลายร้อยคน แล้วสภาพทางเศรษฐกิจของโจทก์แต่ละรายก็ไม่พร้อมหรือไม่สะดวกในการชำระค่าธรรมเนียมศาลด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องยื่นคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลและขอไต่สวนเพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลเป็นรายบุคคลด้วย ทำให้คดีในอดีตใช้เวลาในการพิจารณาคดีค่อนข้างจะนาน ระหว่างต่อสู้ คดีผู้เสียหายได้ล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก ทั้งเกิดจากอาการป่วย รวมทั้งถอนตัวเนื่องจากถอดใจที่ไม่รับความเป็นธรรมและใช้เวลานาน
สำหรับคำพิพากษาในคดีสารแคดเมียมผู้เขียนจะขอนำมาย่อสรุปไว้ในตอนถัดไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี