ประมงกาญจนบุรีร่วมมือกับหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนวชิราลงกรณ และกลุ่มประมงอาสา ช่วยกันเฝ้าระวังการลักลอบทำประมงในพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำลำห้วยบีคลี่ ในช่วงฤดูวางไข่ ระหว่าง 1 มิ.ย.-31 ส.ค.
วันนี้ (25 ก.ค.66) น.ส.ธิดาวรรณ โพธิเพ็ชร หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยอาสาสมัครกลุ่มใบไม้ลงเรือเร็วออกตรวจการลักลอบทำประมงด้วยเครื่องมือประมงต่างๆ ในพื้นที่ลำห้วยบีคลี่ ตั้งแต่บริเวณสามประสบ หรือจุดที่แม่น้ำซองกาเลีย รันตี และบีคลี่ไหลลงมาบรรจบกัน เพื่อป้องกันการลักลอบจับสัตว์น้ำในช่วงฤดูปลาวางไข่ ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย-31 ส.ค.66 ตามประกาศของประมงจังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากช่วงนี้เริ่มมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นส่งผลให้ปลาอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณเริ่มขึ้นไปวางไข่บริเวณต้นน้ำห้วยบีคลี่
น.ส.ธิดาวรรณ โพธิเพ็ชร หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า พื้นที่บริเวณแม่น้ำบีคลี่เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นพื้นที่วางไข่และอนุบาลลูกปลา และสัตว์น้ำนานาชนิด โดยเฉพาะปลาประจำถิ่นสำคัญ เช่น ปลาเค้า ปลาอีทุก ปลากด ปลาชะโด ปลายี่สก ปลากาดำ ปลาช่อน รวมทั้งตะพาบน้ำ เนื่องจากมีแหล่งอาหาร แร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์ รวมทั้งเป็นแหล่งอาศัยหลบภัย และพื้นที่ด้านบน โดยเฉพาะบริเวณประตูเมือง โดยกรมประมงและจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร่วมประกาศให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ โดยห้ามจับสัตว์น้ำทุกชนิด
โดยมีลักษณะทางกายภาพเป็นทุ่งกว้างที่ชุ่มน้ำที่มีพื้นที่กว้างใหญ่หลายพันไร่ ตลอดสองฝากฝั่งของลำห้วย ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่เหมาะในการขยายพันธุ์ของปลาในฤดูวางไข่ และอนุบาลลูกปลาวัยอ่อน ลูกปลาระยะแรก เพื่อการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ก่อนจะเดินทางลงมาสู่ด้านล่างของอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งปัญหาที่ผ่านมามักพบการลักลอบเข้าไปจับปลาในพื้นที่ดังกล่าวมาตลอด ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถ เก็บกู้เครื่องมือจับสัตว์น้ำจำพวก ข่าย อวน เบ็ดราว และอื่นๆได้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีผู้ลักลอบนำอุปกรณ์ต่างๆไปจับปลาอยู่เช่นเดิม
ดังนั้น จึงหาแนวทางป้องกันด้วยการ สร้างกลุ่มจิตอาสา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนและชาวบ้านที่มีอาชีพทำการประมงน้ำจืด ในพื้นที่ขึ้นมาเพื่อให้เป็นจิตอาสาในการอนุรักษ์และช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ในการเฝ้าระวังการลักลอบทำการประมงในช่วงฤดูกาลปลาวางไข่ โดยการสนับสนุนงบประมาณในการเลี้ยงปลาในกระชัง หรือการรวมกลุ่มแปรรูปผลิตจากปลา เพื่อเพิ่มมูลค่า ในช่วงเวลาประกาศห้ามทำประมงในฤดูปลาวางไข่ ซึ่งจากการดำเนินการมาในระยะเวลา 2-3 ปี พบว่าปัญหาการลักลอบจับปลาในช่วงฤดูปลาวางไข่ในพื้นที่ลดลง
"เนื่องจากทุกฝ่ายเห็นถึงความสำคัญโดยเฉพาะปีนี้ในพื้นที่ปริมาณฝนน้อยกว่าหลายปีที่ผ่านมาประกอบกับฝนไม่ตกตามฤดูกาล จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อพฤติกรรมการขึ้นมาวางไข่ของปลา ซึ่งหากปริมาณปลาที่ขึ้นไปวางไข่ลดน้อยลงย่อมส่งผลกระทบต่อปริมาณปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่เป็นแหล่งอาหารจำพวกโปรตีน ที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่มีราคาถูกที่สุด และเข้าถึงได้ง่ายของประชาชนชาว อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี" น.ส.ธิดาวรรณ โพธิเพ็ชร กล่าว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี