พ.ร.บ.ทรมานอุ้มหาย นอกจากมีโทษทางอาญาที่รุนแรงแล้ว ยังมีส่วนบทบัญญัติที่เกี่ยวกับค่าสินไหมทดแทนไว้โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ นอกจากผู้เสียหายจะสามารถเรียกค่าเสียหายได้ตามหลักกฎหมายปกติแล้ว ยังกำหนดบังคับให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการต้องแจ้งสิทธิเกี่ยวกับค่าสินไหมทดแทน ให้แก่ผู้เสียหายเพื่อทราบด้วย และนอกจากนี้ยังกำหนดในกรณีที่ผู้เสียหายมีความประสงค์ที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทนให้พนักงานอัยการเรียกค่าสินไหมทดแทนแทนผู้เสียหาย
ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการที่จะต้องแจ้งสิทธิ์ในการเรียกค่าสินไหมทดแทนและดำเนินการเรียกค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เสียหายหรือประชาชนที่จะได้ทราบสิทธิเรียกร้องในการเรียกค่าสินไหมทดแทนของตนและยังอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียหายในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไปด้วย
โดยมีรายละเอียดบัญญัติไว้ในมาตรา 33 เพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้เสียหายให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการแจ้งให้ผู้เสียหายทราบในโอกาสแรกถึงสิทธิที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทนอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ และสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมาย ในกรณีที่ผู้เสียหายมีสิทธิและประสงค์ที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวในวรรคหนึ่ง ให้พนักงานอัยการเรียกค่าสินไหมทดแทนแทนผู้เสียหายด้วย
ส่วนในละเอียดค่าสินไหมทดแทนนั้นแม้ไม่ได้บัญญัติไว้ชัดเจนตามกฎหมาย แต่สามารถใช้หลักการดั่งเช่นกรณีละเมิด อาทิ เกิดความเสียหายบาดเจ็บแต่ไม่เสียชีวิตค่าเสียหายที่เรียกได้เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่ารักษาพยาบาลในอนาคตค่าขาดรายได้ ค่าเสียหายที่ไม่อาจคำนวณเป็นเงินได้ เช่น ร่างกายไม่สามารถใช้ได้คงเดิมตามปกติรวมถึงค่าเสียหายอื่นตามกฎหมายหากเป็นกรณีเสียชีวิตก็จะมีค่าปลงศพค่าขาดไร้อุปการะ ค่าขาดแรงงาน เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี