ชาวนากาฬสินธุ์ เรียกร้องรัฐบาลจัดโครงการประกันราคาข้าว และให้เงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว หลังประสบปัญหาต้นทุนการผลิตต่อไร่สูงถึงไร่ละ 5,000 บาท เฉลี่ยขายข้าวได้เพียงไร่ละ 4,000 บาท ด้านผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่กาฬสินธุ์ เผยราคารับซื้อผลผลิตข้าวเปลือก ปีนี้ยังอยู่เกณฑ์ปกติ ข้าวเหนียวตันละ 12,000 บาท ข้าวเจ้าหอมมะลิ 105 ราคาตันละ 13,500 บาท
7 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศ การประกอบอาชีพของเกษตรกรชาว จ.กาฬสินธุ์ ทั้ง 18 อำเภอ ในช่วงรอเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว ฤดูกาลผลิต 2566 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป พบว่า ชาวนาทั้งในเขตใช้น้ำชลประทาน และนอกเขตชลประทาน ได้ออกมาตรวจสภาพนาข้าวและต้นข้าว ซึ่งเป็นผลผลิตจากหยาดเหงื่อ แรงงาน และการลงทุนที่สูง ทั้งนี้ ในส่วนแปลงข้าวที่อยู่ในที่ลุ่มรวงข้าวยังดูเขียวอยู่ เพราะยังมีน้ำขัง ขณะที่แปลงข้าวที่อยู่บนที่สูง เมล็ดข้าวกำลังเข้าสู่ระยะพลับพลึง และได้อายุเก็บเกี่ยวในสัปดาห์หน้าที่กำลังจะมาถึง
นายปี วรรณศรี อายุ 71 ปี ชาวนาบ้านแสนสำราญ หมู่ 4 ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า อาชีพทำนาเป็นอาชีพที่ต้องลงทุนสูง รายได้ต่ำ และเสี่ยงกับการขาดทุน ทุกปีที่ผ่านมาทำทั้งข้าวนาปี และนาปรัง ผลสรุปไม่คุ้มทุนเลย จากการคำนวณทุกขั้นตอนซึ่งเป็นรายจ่ายทั้งหมด เริมจากไถ คราด พรวน เมล็ดพันธุ์ น้ำมันสูบน้ำ ค่าแรง ค่าปุ๋ยเคมี ค่ารถเกี่ยว ค่าขนส่ง สูงถึงไร่ละ 5,000 บาท ขณะที่ผลลิตได้เฉลี่ยไร่ละ 400-500 ก.ก. ขายได้ ก.ก.ละ 8-9 บาท จะเห็นว่าเมื่อหักลบกลบหนี้แล้วขาดทุนยับ
นายปี กล่าวอีกว่า หลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลเคยมีโครงการช่วยเหลือชาวนา ทั้งโครงการรับจำนำข้าว โครงการประกันราคาขาว และช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นการชดเชยรายได้ที่หายไป ทำให้ชาวนาลดทุนทำนาได้บ้าง ถึงแม้ต้นทุนการผลิตยังสูง โดยเฉพาะปุ๋ยเคมี ที่เหมือนอยู่เหนือการควบคุมของหน่วยงานภาครัฐ ปล่อยให้ผู้ประกอบการร้านขายปุ๋ยปรับราคาไปเอง อย่างไรก็ตาม ขณะที่ข้าวกำลังรอเก็บเกี่ยวนี้ จึงอยากให้ทางรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือชาวนาด้วย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการประกันราคา การปรับราคาซื้อข้าวเปลือกให้สูงขึ้น และช่วยค่าเก็บเกี่ยว และโครงการจำนำข้าวด้วย ทั้งนี้ หากประกันราคาให้ กก.ละ 13 บาท หรือขายได้ในราคา ก.ก.ละ 15 บาท ชาวนาพอจะมีรอยยิ้มและอยู่ได้
ด้านนายธนาพล ธรรมโนขจิต ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันรับซื้อข้าวเปลือกเหนียวแห้ง ซึ่งเป็นข้าวเก่า ราคาตันละ 12,000 บาท ข้าวเจ้าหอมมะลิ 105 ทั้งข้าวเก่าและใหม่แห้ง ที่กำลังจะออกสู่ตลาดราคาตันละ 14,000-14,500 บาท ขณะที่เกี่ยวสด ราคาตันละ 10,500-11,000 บาท สำหรับแนวโน้มราคารับซื้อผลผลิตข้าวนาปี ฤดูกาลผลิต 2566 ข้าวเหนียวเกี่ยวสด ตันละ 9,000-10,000 บาท ข้าวเหนียวแห้ง 12,000-13,000 บาท ข้าวเจ้าหอมมะลิ 105 เกี่ยวสดตันละ 10,500-11000 บาท ข้าวเจ้าหอมมะลิ 105 แห้งตันละ 13,500-14,000 บาท ทั้งนี้ ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพข้าว
นายธนาพลกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม หากชาวนาต้องการขายข้าวได้ราคาสูง และได้ปริมาณมากขึ้น ควรใช้เมล็ดพันธุ์ใหม่ ทำนาดำ เพื่อคัดแยกข้าวปลอมปนได้ง่าย และให้ผลผลิตสูงกว่านาหว่าน โดยเฉพาะในส่วนของการนำข้าวเปลือกมาขายนั้น ควรผึ่งแดดให้แห้งก่อน ซึ่งจะได้ราคาสูงกว่านำข้าวเกี่ยวสดมาขาย ที่จะถูกแหล่งรับซื้อหักค่าความชื้นและสิ่งเจือปน.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี