จังหวัดมหาสารคาม เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่จุดกึ่งกลางของภาคอีสานมีวัฒนธรรมขนบธรรมเนียม ประเพณีที่มีการสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน โดยประเพณีฮีต12 คอง 14 ตามวิถีที่คนอีสานนับถือ เป็นวิถีที่เป็นงานบุญที่ทุกคนถือปฏิบัติ “บุญเบิกฟ้า” ถือเป็นอีกหนึ่งประเพณี  ที่มีการสืบทอดกันมานาน เมื่อชาวนาเก็บเกี่ยวผลผลิตขึ้นยุ้งฉางเรียบร้อยแล้ว เปรียบเสมือนมีความอุดมสมบูรณ์เต็มที่ ชาวนาจะขอบคุณดิน ด้วยการนำปุ๋ยคอกไปใส่ในไร่นาของตนเอง ในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ก่อนเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป ชาวนาจะนอนรอฟังเสียงฟ้าร้องครั้งแรกของปี ว่าปีนั้นๆ ปริมาณน้ำฝนน้ำท่าจะมากน้อยเพียงใด 

นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต  ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม  กล่าวว่า จากความเชื่อของคนสมัยโบราณ เกี่ยวกับความอัศจรรย์ของวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันที่ “กบบ่มีปาก นาคบ่มีฮู้ขี้ บักหมากขามป้อมแสนส้ม กะเหล่าหวาน”  หมายความว่า กบไม่ได้กินอาหารก็อิ่มทิพย์  เพราะมีเยื่อบางๆ สีขาวปิดปากอยู่ ส่วนนาคจะไม่มีรู้ทวารให้ถ่ายท้องออกมา  ซึ่งถือเป็นความสมบูรณ์อิ่มเอม และหากใครกินมะขามป้อมซึ่งเป็นผลไม้รสเปรี้ยว ก็จะกลับกลายเป็นรสหวาน อีกประการหนึ่งถือเป็นวันที่ ฟ้าไขประตูฝนให้ตกลงมาสู่โลกมนุษย์  ชาวนาจะนอนฟังเสียงฟ้าร้อง จากทิศทั้ง 8 ประกอบด้วย ทิศบูรพา ทิศอาคเนย์ ทิศทักษิณ ทิศหรดี ทิศปัจจิม ทิศพายัพ ทิศอุดร และทิศอีสาน หากฟ้าร้องที่ทิศใดก็จะหมายถึงปริมาณน้ำฝน น้ำท่าในปีนั้นๆ ว่าจะมีปริมาณมากน้อยเพียงใด

เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมที่ดีงาม  จ.มหาสารคาม จึงได้จัดงาน “บุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม  ประจำปี 2567”  ขึ้น ระหว่างวันที่ 9-18 กุมภาพันธ์ 2567  รวม 10 วัน10 คืน  ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม

ในวันเปิดงานวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ช่วงเช้าจะมีพิธีบูชามเหศักดิ์หลักเมืองและมีพิธีเปิดงานที่ยิ่งใหญ่ ตลอด 10 วัน 10 คืน จะมีมหรสพ คอนเสิร์ตจากวงดนตรีที่มีชื่อเสียง โดยในปีนี้ วันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3  ตรงกับวันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 จะมีพิธีบวงสรวงพระแม่โพสพ  เพื่อเป็นการขอบคุณข้าว ขอบคุณดิน ขอบคุณน้ำ ที่ให้ชาวนาได้ทำนา  มีผลผลิตที่ดี  และเพื่อเป็นการเตรียมตัวเข้าสู่ฤดูกาลทำนาอีกครั้ง โดยจะมีการทำพิธีบวงสรวงแม่โพสพ มีการเสี่ยงทายคางไก่ เพื่อทำนายว่าผลผลิตข้าวในนาจะอุดมสมบูรณ์หรือไม่ ได้ข้าวมากน้อยเพียงใด มีการนำปุ๋ยคอก ไปหว่านลงในแปลงนาสาธิต เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นทำนา ที่บริเวณหน้าหอพระประธานกันทรวิชัย   

นอกจากนี้ยังได้มีจัดการประกวดผลผลิตทางการเกษตร การเปิดบ้านกระทรวงเกษตรฯ และการประกวดส้มตำลีลา เวทีการแสดง Soft Power “สืบสาน มหานครแห่งครั่ง หัตศิลถิ่นสารคาม” มหกรรมการประกวดผ้า ไหมลายสร้อยดอกหมาก ประกวดมัดหมี่ Young ดนตรีอีสานโบราณ อาหารจากดักแด้ Designer เบิกฟ้าปลาร้าบอง TikTok Influencer เทพบุตรเบิกฟ้า งาน “กินพาแลง แญงผ้าไหม” การสาธิต “ปราชญ์ ศาสตร์ศิลป์ ถิ่นตักศิลา” และการจัดแสดงมหกรรมหุ่นกระติบข้าวและหุ่นฟาง ครั้งที่ 2 ชมหุ่นกระติบข้าว หุ่นฟาง 12 นักษัตร และการแสดงหมอลำหุ่นกระติบข้าว ซึ่งหุ่นกระติ๊บ หุ่นฟางที่มาจัดแสดงในงาน จะมาในรูปแบบประติมากรรมแห่งวิญญาณและจิตวิญญาณของคนอีสาน โดยการรวบรวมงานหัตถกรรม 12 นักษัตร  ซึ่งงานที่นำมาจัดแสดง จะมาในรูปแบบมินิมอล น่ารัก สวยงาม แปลกตา ซึ่งจะมีการประดับไฟ สามารถมาเยี่ยมชม ถ่ายรูปได้ทั้งกลางวันและกลางคืนซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ที่ไม่ควรพลาด

จึงขอเชิญชวนชาวมหาสารคามและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวงานบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2567 และร่วมซื้อสลากกาชาดสมนาคุณ เพื่อช่วยเหลือกิจกรรมของกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 9-18 กุมภาพันธ์ 2567 ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม

ยุทธนา โชติชูตระกูล