เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 10 มีนาคม 2567 ร.ต.ท.ปรัชณันท์ ก่อคุณ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุมีคนต่างด้าวชาวเมียนมาทะเลาะกัน และแทงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในหอพักแห่งหนึ่ง ซอยคลองหลวง 50 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสูง 5 ชั้น บริเวณชั้นที่ 3 ตรงระเบียงทางเดิน พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สภาพศพนอนคว่ำจมกองเลือดอยู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ช่วยกันพลิกศพ พบมีบาดแผลถูกที่หลังด้านซ้าย 1 แผล และหน้าอกขวา1 แผล และในมือซ้ายมีอาวุธมีดยาวประมาณ 1 ฟุต จำนวน 1 เล่ม ทราบชื่อ นายตีทัวอาว สัญชาติเมียนมา และที่กระจกบานเกล็ดหน้าห้องถูกตีแตกได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบภายในห้อง พบมีขวดเหล้าวางอยู่ 1 ขวด และอาวุธมีดยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ใกล้กับประตูทางออก 1 เล่ม พร้อมกับเสื้อเปื้อนเลือดอยู่ 1 ตัว และกองเลือดจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อ นาย ZAW MIN HTWE สัญชาติเมียนมา ถูกแทงด้วยอาวุธมีดที่หลัง เจ้าหน้าทีมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนแล้ว

จากการสอบถาม นายโจสุเอะ อายุ 52 ปี บอกว่า ตนเองอยู่ชั้น 1 และก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันอยู่ที่ชั้น 3 จากนั้นก็มีคนถูกแทงเดินออกไปจากหอพัก ส่วนคนตายนั้นอยู่ซอยคลองหลวง 48 และได้มีเที่ยวหาเพื่อน ที่อยู่ในหอพักนี้

ด้าน พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง ได้ให้ข้อมูลว่า จากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้สอบถามภรรยาคนเจ็บ บอกว่า นายตีทัวอาว สัญชาติเมียนมา (ผู้เสียชีวิต) ซึ่งอยู่ซอยคลองหลวง 48 ได้มาหาสามีตนเอง ชื่อ นาย ZAW MIN HTWE สัญชาติเมียนมา (ผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ) จากนั้นก็ชวนกันออกไปจากหอพักช่วงเวลา 22.00 น.และเวลาประมาณ 23.00 น.ก็กลับที่หอพัก และได้ทะเลาะกันอยู่ที่หน้าห้อง แต่ก็ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร ซึ่งทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน และสามีก็ไม่เข้ามาในห้อง จึงรู้ว่าแทงกันเสียชีวิตและบาดเจ็บ

ขณะที่ ร.ต.ท.ปรัชณันท์ ก่อคุณ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และจะได้สอบปากคำคนเจ็บอีกครั้งถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมทั้งได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง

- 006