ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน พื้นที่ทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2567 ที่ท่าเทียบเรือประมงชุมพร ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร โดยแบ่งเป็นบริเวณพื้นที่อ่าวไทยตอนกลาง 2 ช่วงระยะเวลา ตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางและเขตต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวประจวบฯ และบริเวณพื้นที่อ่าวไทยรูปตัว ก 2 ช่วงระยะเวลา ได้แก่ ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน–15 สิงหาคม 2567 ในพื้นที่อ่าวไทยตอนในฝั่งตะวันตกของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร และระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม–30 กันยายน 2567 ในพื้นที่อ่าวไทยตอนในด้านเหนือของ จ.สมุทรสาคร กทม.สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำฝั่งทะเลอ่าวไทยซึ่งเป็นแหล่งวางไข่และอาศัยเลี้ยงตัวอ่อนของสัตว์น้ำหลายชนิด ด้วยการคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำที่มีความสมบูรณ์เพศพร้อมผสมพันธุ์วางไข่ และปกป้องสัตว์น้ำวัยอ่อนให้มีโอกาสเจริญเติบโตเป็นสัตว์น้ำรุ่นต่อไป
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินมาตรการฯในปี 2566 พบว่าปริมาณการจับปลาทูในอ่าวไทยมีปริมาณถึง 41,310 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,316.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 5,602 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 659.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ของปริมาณการจับ (ปี 2565 ปริมาณ 35,708 ตัน มูลค่า 2,657.49 ล้านบาท) และพบว่าพ่อแม่ปลาทูมีความสมบูรณ์ในอัตราที่สูงเกือบร้อยละ 100 อีกทั้งยังพบการแพร่กระจายของลูกปลาทู-ปลาลัง และสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดอื่นในพื้นที่ซึ่งประกาศใช้มาตรการ จึงยืนยันได้ว่ามาตรการฯ ที่ใช้มีความสอดคล้องถูกต้อง และเหมาะสมทั้งในด้านพื้นที่ ช่วงเวลา และเครื่องมือที่มีการประกาศใช้มาตรการฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี