"ทนายตั้ม"ตั้งโต๊ะแถลงสวดยับหลังมีคําสั่งคืนเก้าอี้ผบ.ตร.ให้"บิ๊กต่อ" โวยลั่นอุตส่าห์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย แต่สุดท้ายได้กลับที่เดิม อ้างกรณีนี้การเมืองเกี่ยวข้องแน่นอน พร้อมปูดเคยมีนักการเมืองที่สนิทติดต่อขอดีลลับให้ยุติบทบาทแลกกับการดูแลเป็นอย่างดี แต่ตอบปฏิเสธไป ยอมรับกังวลเรื่องความปลอดภัยถูกหมายหัวเช็คบิลคนแรก

20 มิ.ย.67 จากกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับผลการตรวจสอบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีความขัดแย้งภายในสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ซึ่งคําสั่งดังกล่าวจะทําให้ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่มี ผบ.ตร. เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ซึ่งเรื่องที่เคยแจ้งความดําเนินคดีไว้ก็ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตํารวจจะกล้าดําเนินการต่อหรือไม่

โดยก่อนหน้านี้ตนได้แจ้งความดําเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ไว้ที่ สน.เตาปูน พร้อมกับร้องเรียนไปยังคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ปปป. และ ปปง. ซึ่งทั้งหมดไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ส่วนคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่นายกแต่งตั้งขึ้น ได้เชิญตนเข้าไปยื่นหลักฐาน 3-4 ครั้ง รวมถึงสายลับ ซึ่งทุกคนล้วนแต่เสียสละและเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพื่อมอบพยานหลักฐานต่างๆให้ตรวจสสอบว่ามีการรับผลประโยชน์จริงๆทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่สุดท้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ก็ได้กลับมาเป็น ผบ.ตร. เหมือนเดิม

ทนายตั้ม กล่าวต่ออีกว่า การเซ็นคําสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับมาเป็น ผบ.ตร. นั้น เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะก่อนหน้านี้มีผู้ใหญ่ซึ่งเป็นนักการเมืองที่ตนนับถือและสนิทติดต่อดีลลับมาว่าให้หยุดเรื่องต่างๆ แลกกับการที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะได้กลับเข้ามาดํารงแหน่งเดิม พร้อมกลับเสนอดูแลตนเองเป็นอย่างดี คาดว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน แต่ตนตอบปฏิเสธไป ส่วนการกลับมาของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เบื้องต้นเป็นการกลับมาเพื่อทําภารกิจสําคัญก่อนจะลาออก

ในส่วนของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทนายตั้ม ระบุว่า มีความผิดเต็มๆในการเซ็นคําสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน โดยไม่ทําตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งจะทําให้อนาคตตกเป็นผู้ต้องหา และเชื่อว่าหลังจากนี้ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็จะดําเนินคดีกับทาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ด้วย

ทั้งนี้ ทนายตั้มได้ยกมือไหว้พร้อมกล่าวขอโทษประชาชนที่ทําภารกิจไม่สําเร็จ ยอมรับรู้สึกจุกอก เพราะรู้ว่าหลายคนคาดหวังกับตนเองมาก แต่ยืนยันจะเดินหน้าทําต่อไป แม้ไม่มีอํานาจเท่าผู้นําประเทศก็ตาม และกล่าวถึงคําพูดของ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง หนึ่งในคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ที่เคยกล่าวไว้ว่า “ไม่มีใครสามารถเอามือไปปิดแผ่นฟ้าได้“ ซึ่งทนายตั้มกล่าวว่า แต่ตอนนี้ปิดมิดแล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลเรื่องความปลอดภัยผลกระทบที่อาจตามมากับการลงสมัค สว. หรือไม่ ทนายตั้ม ยอมรับว่า กังวลมาตั้งแต่แรกและยิ่งต้องระวังตัวมากขึ้น เพราะตนน่าจะถูกเช็คบิลเป็นคนแรก ส่วนเรื่องลงสมัค สว. เชื่อว่าคงต้องมีขขวนการสกัดกั้นไม่ให้ตนมีอำนาจทางการเมือง แต่จะทําเท่าที่ทําได้ให้เป็นเรื่องของบุญวาสนา