"ดีเอสไอ"เรียกสอบเจ้าหน้าที่ ม.ดัง ชี้แจงโครงการวิจัยภาคเกษตรกรรม จ.มหาสารคาร งบกว่า 600 ล้านบาท ส่อ"ฮั้วประ มูล" พบพิรุธมีบริษัทเอกชน 4-5 ราย เกี่ยวข้องเครือญาติบุคลใกล้ชิดนักการเมือง
วันที่ 23 สิงหาคม 2567 จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับกรณีกล่าวหาโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการพัฒนายกระดับทักษะอาชีพในภาคเกษตรกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐาน รากของชุมชนของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ใน จ.มหาสารคาม วงเงิน 600,587,000 บาท ไว้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ 80/2567
โดยมีคำสั่งให้กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองฮั้วประมูล) ดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 เชื่อว่ามีการกระทำที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันราคา หรือ“ฮั้วประมูล”นั้น
ล่าสุดเ รายงานข่าวแจ้งว่า กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองฮั้วประมูล)ได้เรียกเจ้าหน้าที่มหา วิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.มหาสาร คาม เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ถ้อยคำทั้งสิ้นจำนวน 8ราย โดยมีประเด็นเกี่ยวกับการเสนอของบประมาณ การเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ขั้นตอนระหว่างโครงการ วิธีการจัดซื้อจัดจ้างกับเอกชนอาจเอื้อผลประโยชน์แก่กัน และรายละเอียดต่างๆ
แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า วานนี้ 22 ส.ค. ได้เรียกบุคลากรทั้ง 8 ราย เพื่อสอบปากคำ เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดำเนินโครงการวิจัยฯดังกล่าว และอาจมีการเรียกตัวแทนวิสาหกิจชุมชนมาร่วมให้ข้อมูลเพิ่มเติม หลังโครงการวิจัยฯอ้างว่าเป็นมีการแจกจ่ายสินค้าการเกษตรให้ชาวบ้านทั่วประเทศผ่านประธานเครือข่ายที่รวบรวมรายชื่อสมาชิกส่งมาให้ และทางโครงการฯ ก็ยืนยันว่าสามารถแจกจ่ายได้อย่างทั่วถึง
หลังจากนี้ คณะพนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และเรียกประชุมเพื่อพิจารณาว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกับเอกชนกระทำการทุจริตหรือไม่ ซึ่งจะมีความชัดเจนประมาณต้นเดือน กันยายนนี้ หากผิดจริงต้องสรุปสำนวนส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ภายในสิ้นเดือนนี้ เพราะกรอบกฎหมายมีระยะเวลา 30 วัน ส่วนความผิดอาจเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล และฐานสนับสนุนให้ปฏิบัติหรือละเว้นตามมาตรา 157
เบื้องต้น พบว่ามีบริษัทเอกชน 4-5 ราย เป็นกลุ่มธุรกิจเครือญาติของบุคคลใกล้ชิดนักการเมือง ก่อตั้งบริษัทมาเฉพาะกิจเพื่อโครงการดังกล่าว จึงเป็นที่มาต้องเรียกบุคลา กรในมหาวิทยาลัยมาชี้แจงว่าคนใกล้ชิดนักการเมืองเกี่ยวข้องกับโครงการอย่างไรบ้าง และเส้นทางการเงินไปยังบุคคลใดบ้าง นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อนคณะพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้เกี่ยว ข้องมาสอบสวนในฐานะพยาน และให้การที่เป็นประโยชน์
อย่างไรก็ตาม งบประมาณโครง การต้องส่งผ่านมหาวิทยาลัย ซึ่งอธิบการบดีหรือคณบดีจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่อย่างไรนั้น พนักงานสอบ สวนคดีพิเศษจะต้องพิจารณาดูว่าผู้บริหารหน่วยงานมีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลโครงการหรือไม่ เพราะมีการนำชื่อสถาบันศึกษามาเกี่ยว ข้อง ทั้งนี้ คาดประมาณ 2 สัปดาห์จะมีความชัดเจนเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี