“ครอบครัว-คนรัก-ทนาย”แห่เยี่ยมบรรดาบอสชายดิไอคอนวันแรก หลังครบกักโรคฯ ขณะที่“แม่บอสพอล”พลาดไม่ได้เข้าเยี่ยม ด้าน “รองโฆษกราชทัณฑ์” เผยยังไม่มีใครป่วย พร้อมแยกขังบอสชายห้องละ 2-3 คน /"ทนายบอสพอล" เผยเอาเอกสารให้เซ็นต์กรณีนักร้องหญิงเรียกเงิน
วันที่ 24 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังผู้ต้องหาชายในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จำนวน 11 ราย ว่าเมื่อเวลา 10.50 น. มีผู้หญิงสูงวัย 1 ราย ผมสั้น สวมเสื้อสีเขียวลายดอกไม้และกางเกงสีดำ ถือกระเป๋าสาน ได้เดินออกมาบริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมกับผู้หญิงสูงวัย สวมเสื้อสีส้ม ซึ่งผู้สื่อข่าวจดจำใบหน้าละม้ายคล้ายนางจินดา แซ่ก๊อก มารดาของบอสพอล จึงรีบรุดเข้าไปทักทายสวัสดีพร้อมกับสอบถามว่า ใช่คุณแม่บอสพอลหรือไม่ ปรากฏว่ามีการยกมือปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ และบอกว่าตนเองไม่ใช่แม่บอสพอล ก่อนรีบเดินขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีเทา ทะเบียน 9กษ91 กรุงเทพ มหานคร ในขณะที่เมื่อช่วงเช้าเวลา 10.00 น. เดินทางมาด้วยรถตู้เอนกประสงค์ ทั้งนี้ มีรายงานว่าแม่บอสพอลไม่ได้เข้าไปเยี่ยมด้วย แต่รออยู่ด้านนอกแทน เนื่องจากไม่ได้ส่งรายชื่อเข้าไปก่อน และภายหลังการเข้าเยี่ยม ครอบครัวมีการยืนพูดคุยกัน บางคนที่เข้าถึงกับน้ำตาคลอออกมา ขณะที่เเม่บอสพอลก็ยืนพูดคุยกันกับคนอื่นๆเกี่ยวกับคดีของบุตรชาย
สำหรับบรรยากาศบริเวณห้องเยี่ยมญาติ พบว่าห้องเยี่ยมญาติมีทั้งหมด 7 ห้อง โดย 1 ห้องมี 4 เก้าอี้ และนั่งห่างกันหนึ่งช่วงแขน ซึ่งการพูดคุยของญาติและผู้ต้องขังจะมีซี่กรงกั้นกลางไว้ และใช้โทรศัพท์คล้ายโทรศัพท์บ้านในอดีตในการสื่อสารระหว่างกัน และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา นอกจากนี้ การจะเข้าเยี่ยมญาติ ณ เรือนจำฯ ทุกคนจะต้องลงทะเบียนเยี่ยมบริเวณจุดคัดกรองที่ด้านหน้าเรือนจำฯ เพื่อตรวจสอบและลงทะเบียนขอเยี่ยมผู้ต้องขัง และเพื่อตรวจเอกสารต่าง ๆ ก่อน และต้องเป็นบุคคลที่อยู่ใน 10 รายชื่อที่ผู้ต้องขังแจ้งไว้ เมื่อตรวจเอกสารเสร็จสิ้น จะได้รับใบคิวที่จะระบุรอบเวลาการตีเยี่ยมและเลขเครื่องที่จะใช้ในการเยี่ยม โดยการเยี่ยมญาติกำหนดเวลาเพียง 20 นาทีต่อคน
ขณะที่ห้องขวาสุดถัดจากห้องเยี่ยมญาติผู้ต้องขังจะเป็นห้องงานเยี่ยมญาติผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ (LINE) ส่วนตรงข้ามกับห้องเยี่ยมญาติ ณ เรือนจำฯ จะเป็นร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง ซึ่งมีการจัดจำหน่ายทั้งของกินของใช้ ถัดเข้าไปด้านในคือห้องรับฝากเงินผู้ต้องขัง และตรงข้ามห้องรับฝากเงินผู้ต้องขังคือห้องทนายความและล่าม มีจำนวน 3 ห้อง ทั้งนี้ ก่อนเข้าเยี่ยมญาติในห้อง ทุกคนจะต้องเก็บเครื่องมือสื่อสารไว้ในล็อกเกอร์
ด้านนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า สำหรับอาการล่าสุดของบรรดาบอสชายและบอสหญิง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ การปรับตัว การรับประทานอาหารนั้น ทุกคนเริ่มปรับตัวได้ มีความเครียดน้อยลง และจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครเจ็บป่วย ส่วนวันนี้คือวันตีเยี่ยมญาติเป็นวันแรกสำหรับบรรดาบอสชาย หลังครบกำหนดระยะเวลาการกักโรคโควิด-19 ทำให้ทั้งหมดจะถูกย้ายไปยังแดนควบคุมผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาดี ห้องละ 2-3 คน แต่ไม่ขอเปิดเผยเลขแดน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่บรรดาบอสหญิงที่ครบกักโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.นั้น ก็ได้ถูกย้ายเข้าแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดีเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ข้อมูลการตีเยี่ยมญาติของบรรดาบอสชายและบอสหญิง ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะผู้ต้องขังไม่อนุญาตให้มีการเปิดเผยสู่สาธารณะ
ขณะที่นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนาย ความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตนได้นำเอกสารที่จะแจ้งความกรณีที่มีพนักงานของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ ถูกตำรวจเชิญมาให้ปากคำและยึดโทรศัพท์มือถือ รวมถึงกรณีนักร้องเรียนหญิงที่มีพฤติกรรมเรียกรับเงินมาให้นาย วรัตน์พล เซ็นชื่อ และตนได้ออกจากเรือนจำฯ มาแล้ว ขณะนี้ตนอยู่ที่ศาลอาญารัชดาฯ เพื่อติดตามคดีอื่น ทั้งนี้ ในกรณีของการจะเดินทางไปแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในช่วงเที่ยงหรือไม่นั้นอาจจะไม่ทัน ก็จะไปช่วงเย็นแทน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี