เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า ซ้ำซาก ! อุบัติเหตุก่อสร้างบนถนนพระราม 2

เช้ามืดวันนี้ (วันศุกร์ที่ 29 พ.ย.2567) ได้เกิดอุบัติเหตุในการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว บนถนนพระราม 2 มีทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย น่าเศร้ายิ่งนัก ! ทำอย่างไรที่จะป้องกันอุบัติเหตุได้ ?

ผมขอถือโอกาสนี้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้บาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกราย

สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจะเกิดจากอะไรก็ตาม แต่อุบัติเหตุเช่นนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะเกิดมาบ่อยมาก ซ้ำซากจริงๆ แม้จะมีการคาดโทษจากรัฐมนตรีว่าการคมนาคมแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งอุบัติเหตุได้

ผมเข้าใจดีว่าทุกคนไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ถ้าผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเอาจริงเอาจัง หมั่นลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบการก่อสร้างอยู่เป็นประจำ เข้มงวดกวดขันกับคนที่อยู่หน้างาน เขาก็ไม่กล้าละเลยต่อหน้าที่ มีการควบคุมการทำงานของผู้รับเหมาอย่างใกล้ชิด ก็จะสามารถป้องกันข้อผิดพลาดที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า การก่อสร้างมอเตอร์เวย์ที่เป็นทางยกระดับนั้น มีการยกคานคอนกรีตรูปกล่องมาต่อกันเป็นสะพานหรือทางยกระดับ ซึ่งถ้าเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาก็ง่ายที่จะเกิดอุบัติเหตุทำให้คานหล่นลงมาทับคนทำงาน รวมถึงผู้สัญจรผ่านไปมา ด้วยเหตุนี้ ผู้รับผิดชอบจะต้องให้ความสำคัญต่อรายละเอียดการก่อสร้างขั้นตอนนี้อย่างมาก

ผมขอเสนอให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบถอดบทเรียนการเกิดอุบัติเหตุจากการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ที่เกิดขึ้นบ่อยมาก พร้อมทั้งทบทวนวิธีการและขั้นตอนการก่อสร้างอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในการก่อสร้างมอเตอร์เวย์บนถนนพระราม 2 และโครงการอื่นในอนาคต

อีกไม่นานแล้วที่การก่อสร้างมอเตอร์เวย์ช่วงนี้จะแล้วเสร็จ ไม่มีใครอยากเห็นคนบาดเจ็บและล้มตายจากการก่อสร้างนี้อีกแล้ว อยากวิงวอนให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบทุกฝ่ายขยันลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง อย่าทำเฉพาะเมื่อเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานก็ปล่อยผ่านไป เหมือน “ไฟไหม้ฟาง”

ผมมั่นใจว่าการเข้มงวดกวดขัน เอาจริงเอาจังของผู้มีหน้าที่รับผิดชอบจะสามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ !

ผมเห็นใจท่าน รมว.คมนาคม ที่ประกาศใช้มาตรการให้คะแนนผู้รับเหมาโดยบันทึกไว้ใน “สมุดพก” ถึงเวลานี้ท่านคงประจักษ์แล้วว่า “มาตรการสมุดพก” ใช้ได้ผลหรือไม่ ? แล้วท่านจะใช้มาตรการใดต่อไป ?

ทั้งหมดนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกคนที่ตั้งใจทำงานมาโดยตลอด

- 006