‘ประเสริฐ’เผยผลเร่งรัดปราบปราม‘โจรออนไลน์’ ระงับบัญชีม้าแล้วกว่า 1.5 ล้านบัญชี

‘ประเสริฐ’เผยผลเร่งรัดปราบปราม‘โจรออนไลน์’ ระงับบัญชีม้าแล้วกว่า 1.5 ล้านบัญชี

วันศุกร์ ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 20.19 น.

"ประเสริฐ"เผยผลเร่งรัดปราบปราม"โจรออนไลน์" ระงับบัญชีม้าแล้วกว่า 1.5 ล้านบัญชี แจ้งเตือน Mobile banking แล้ว 1.8 ล้านหมายเลข

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี เป็นรองประธานกรรมการฯ , นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดีอี เป็นเลขานุการคณะกรรมการฯ พร้อมด้วยตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) , สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) , ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย , สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) , กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) , สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) , สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) ร่วมหารือเพื่อดำเนินงานการตามนโยบายปราบปรามภัยออนไลน์ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี


นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาผลดำเนินการและมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 6 เรื่องสำคัญ ที่มีผลการดำเนินงาน ถึง 31 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ดังนี้ 1.การปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ เดือน มกราคม 2568 (ข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ประกอบด้วยการจับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทุกประเภทมกราคม 2568 มีจำนวน 2,590 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.81 เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 2,495 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567 , การจับกุมคดีพนันออนไลน์ มกราคม 2568 มีจำนวน 1,083 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.78 เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 1,064 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567 , การจับกุมคดีบัญชีม้า ซิมม้า และความผิดตาม พรก.ฯ มกราคม 2568 จำนวน 195 ราย ลดลงร้อยละ 18.75 เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 240 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567

2.การปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนัน ได้ปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ/URLs ที่ไม่เหมาะสม (ปีงบประมาณ 68 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 - 31 มกราคม 2568 ระยะเวลา 4 เดือน) , ปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ จำนวน 27,134 (URLs) หลอกลวงออนไลน์ 1,007 (URLs) เว็บไซต์ผิดกฎหมายอื่นๆ จำนวน 22,678 (URLs) รวมปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายแล้ว จำนวน 50,819 (URLs) , การประสานแพลตฟอร์มเพื่อขอปิดกั้น เกี่ยวกับหลอกลวงออนไลน์ มีคำสั่งศาล จำนวนแจ้งขอการปิดกั้น 6,128 (URLs) ไม่มีคำสั่งศาล จำนวนแจ้งขอการปิดกั้น 17,689 (URLs) (เฉพาะในส่วนของกระทรวงดีอี)

3.การแก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงิน มีผลการดำเนินงานที่สำคัญตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2566 - 31 มกราคม 2568 ดังนี้ การระงับบัญชีต้องสงสัย รวมเป็นจำนวนกว่า 1,572,317 บัญชี (AOC จำนวน 317,317 บัญชี ธนาคาร จำนวน 1,255,000 บัญชี) , ปปง. ทำการอายัดบัญชีไปแล้วกว่า 694,376 บัญชี ( ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 โดยจำนวนดังกล่าว เป็นจำนวนบัญชีที่ปปง.อายัด รวมกับบัญชีต้องสงสัยที่ AOC ส่งให้ ปปง.ตรวจสอบและทำการอายัดบัญชี)

4.การแก้ไขปัญหาซิมม้า และ ซิมม้าที่ผูกกับ Mobile banking มีผลการดำเนินงานที่สำคัญถึง 31 มกราคม 2568 โดยเฉพาะการกวาดล้างซิมม้าและซิมต้องสงสัย โดย สำนักงาน กสทช. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการยืนยันตัวตนและข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และผลการดำเนินงาน ดังนี้ (1) กลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ด 101 เลขหมายขึ้นไป โดยมีเลขหมายที่เข้าข่าย 5,078,283 เลขหมาย มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว จำนวน 4,246,142 เลขหมาย จำนวนที่ถูกระงับ 832,141 เลขหมาย (ข้อมูล ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568) , (2) กลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 6 - 100 เลขหมาย ซึ่งมีเลขหมายที่เข้าข่าย 3,981,251 เลขหมาย มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว 2,385,311 เลขหมาย จำนวนที่ถูกระงับ 1,595,940 เลขหมาย (ข้อมูล ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568) นอกจากนี้มาตรการยกระดับความปลอดภัย Mobile Banking ชื่อผู้ใช้โทรศัพท์มือถือตรงกับชื่อเปิดบัญชีธนาคาร เริ่มให้กลุ่มเป้าหมายที่เข้าข่าย จำนวน 3,238,971 ราย ต้องดำเนินการยืนยันตัวตน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 มีกำหนดภายใน 90 วัน จนถึงภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 โดยธนาคารแจ้งเตือนผู้ที่เข้าข่ายยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารแล้ว จำนวน 1,836,636 ราย เหลืออีกจำนวน 1,402,335 ราย

5.การดำเนินการเรื่องเสาโทรคมนาคม สายสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสายโทรศัพท์ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านตามมาตรการ ตัดไฟ สัญญาณอินเทอร์เน็ต รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในพื้นที่ 5 จุดชายแดนไทย - เมียนมา ในพื้นที่ จ.ตาก จ.กาญจนบุรี และจ.เชียงราย กระทรวงดีอี กสทช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ปฏิบัติการตามมาตรการระงับเสาสัญญาณโทรศัพท์ในการแก้ไขเสาสัญญาณฯ ให้เป็นไปตามมาตรการฯ ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 24 ต้น อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จำนวน 8 ต้น อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 10 ต้น การปฏิบัติการตามมาตรการระงับสายอินเทอร์เน็ต พบการเชื่อมต่ออุปกรณ์แปลงสัญญาณเป็น Fiber optic จากบ้านหลังหนึ่งข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จำนวน 1กรณี พบการลักลอบสาย fiber optic อำเภอเมือง จ. กาญจนบุรี จำนวน 4 เส้น อำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 1 เส้น

6.มาตรการส่งดี (Dee-Delivery) การให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD) จากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ภายหลังจากการดำเนินมาตรการฯ ของผู้ให้บริการขนส่งจำนวน 9 ราย พบว่า มาตรการดังกล่าวได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น โดยมีการส่งสินค้าเก็บเงินปลายทางเพิ่มมากขึ้น มีการเปิดตรวจสอบสินค้าก่อนชำระเงินเพิ่มขึ้น ในส่วนของการขอคืนสินค้า และขอคืนเงินพบว่ามีจำนวนลดลง

อย่างไรก็ตาม กระทรวงดีอี ได้รับมอบหมายให้ติดตามผลการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์เป็นรายสัปดาห์ เพื่อรายงานให้นายกรัฐมนตรี รับทราบความเคลื่อนไหว โดยภาพรวม กระทรวงดีอี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้บูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ บัญชีม้าและซิมม้า และเร่งการอายัดบัญชีธนาคาร ตัดเส้นทางการเงิน การปิดกั้นโซเชียลมีเดียหลอกลวงผิดกฎหมาย และเว็บพนันออนไลน์ โดยในส่วนของการระงับบัญชีม้าที่มีตัวเลขลดลงนั้น เป็นผลมาจากการปลดล็อคบัญชีธนาคารที่มีการตรวจสอบแล้วว่าไม่เข้าข่ายเป็นบัญชีม้า

"นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้เสนอการแก้ไข พ.ร.ก.อาชญากรรมออนไลน์ ใหม่ เพื่อให้การดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาชญากกรมออนไลน์ มีความรัดกุมและมีประสิทธิภาพ สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพมากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้ ร่าง พ.ร.ก.อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเมื่อมีการพิจารณาแล้วเสร็จ จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นี้ โดยหวังว่าการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการป้องกันและปราบปรามภัยออนไลน์ จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้จำนวนผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจากคดีออนไลน์ลดลงโดยเร็ว ช่วยลดความเดือนร้อนให้กับประชาชน" รองนายกฯ และรมว.ดีอี กล่าวย้ำ

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top