ผู้ว่าแม่ฮ่องสอนยืนยันนักท่องเที่ยวต่างชาติและยิวในพื้นที่อำเภอปายมาเที่ยวเพียงเดือนละ 2,000-3,000 คน เที่ยวแล้วก็กลับ ส่วนยอด 30,000 คน นั้นเป็นยอดสะสมตลอดทั้งปี
เมื่อวันที่ 18 ก.พ.68 กรณีปรากฏข่าวทางโซเชียลเรื่องชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาในพื้นที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวนมากนั้น เพื่อตั้งถิ่นฐานและลงหลักปักฐานเป็นดินแดนพันธะสัญญา รวมถึงตั้ง Chabad รวมกลุ่ม สร้างความเดือดร้อนกับประชาชน และแย่งอาชีพคนไทยนั้น
นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ถึงกรณีดังกล่าวว่า ข้อเท็จจริงแล้ว จำนวนประชากรของอำเภอปาย มีประมาณ 38,000 คน นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่อำเภอปายอันดับ 1 เป็นนักท่องเที่ยวชาวสหราชอาณาจักร ส่วนนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เป็นนักท่องเที่ยวอันดับ 2 เข้ามาเดือนละประมาณ 2,000-3,000 คน มาเที่ยวและเดินทางกลับซึ่งตัวเลข 30,000 คน ที่ได้ลงทะเบียนไว้เป็นตัวเลขสะสมตลอดทั้งปี
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ได้มีการกวดขันมาโดยตลอด กรณีการจับกุมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เป็นกรณีเรื่องของการกระทำความผิด ที่มีการตรวจพบเป็นการแย่งอาชีพคนไทย คือการเล่นดนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการตรวจสอบทุก ๆ เรื่อง ทั้งเรื่องพฤติกรรมรุนแรงที่ได้ดำเนินการ กรณีเกิดเหตุที่โรงพยาบาลอำเภอปาย จำนวน 4 คน และได้เพิกถอนวีซ่า และได้ผลักดันออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนกรณีที่มาแย่งอาชีพคนไทยโดยการเล่นดนตรีได้มีการตรวจสอบจับกุม ซึ่งได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าได้มีการทำตามขั้นตอน ตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้
ส่วนเรื่องการแย่งอาชีพนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ได้กำหนดเป็นมาตรการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งหน่วยงานความมั่นคง จัดหางาน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจภูธร ได้มีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดไม่ให้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ไม่เฉพาะการแย่งอาชีพคนไทย เราได้มีการตรวจสอบติดตามในทุกเรื่องทั้งอาชญากรรม พฤติกรรมรุนแรง ได้ดำเนินการจากมาตรการจากเบาไปหาหนัก
"การเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีเสน่ห์ อากาศดี มีความเหมาะสมที่นักท่องเที่ยวต้องการพักผ่อน จึงมีนักท่องเที่ยวแบ่งออกเป็นหลายส่วน คือนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาและกลับประเทศ ส่วนที่ 2 คือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวและติดใจเมื่อเดินทางกลับไปและกลับเข้ามาใหม่ ส่วนที่ 3 คือมีความผูกพันธ์ชอบสถานที่ท่องเที่ยวเดินทางกลับไปและกลับมาอยู่ต่อเนื่องและใช้ระยะเวลายาวนานซึ่งเป็นผลดีที่จะสร้างรายได้ให้ชุมชนแต่ก็ต้องมีการตรวจสอบเรื่องการเข้าออกตามกฎหมายในการตรวจคนเข้าเมือง"นายเอกวิทย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี