‘ปวีณา’พาครอบครัว‘น้องมายด์’พบ‘ตำรวจสากล’ เร่งตรวจสอบเสียชีวิตแล้วจริงหรือไม่

‘ปวีณา’พาครอบครัว‘น้องมายด์’พบ‘ตำรวจสากล’ เร่งตรวจสอบเสียชีวิตแล้วจริงหรือไม่

วันจันทร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 21.46 น.

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาพ่อแม่ของ น.ส.อธิติญา หรือ น้องมายด์ และเพื่อนลูกสาว ไปพบและประชุมกับ พล.ต.ต.สุระพันธุ์ ไทยประเสริฐ ผบก.กองการต่างประเทศ และทีมงานตำรวจสากลไทย เพื่อให้ข้อมูลการหายตัวไป หลัง น้องมายด์ อายุ 29 ปี ไปอยู่กินกับสามีชาวบังคลาเทศที่ประเทศโอมานถูกทำร้ายร่างกายสาหัสก่อนจะหายตัวไปนานกว่า 3 เดือน โดยพ่อแม่และเพื่อนๆ ไม่สามารถติดต่อน้องมายด์ได้ จึงร้องทุกข์มายังมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยตามหาลูกสาว ขณะนี้สามีของน้องมายด์ถูกตำรวจจับกุมในคดียาเสพติด จึงขอให้ทางตำรวจช่วยประสานตำรวจโอมาน ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังเพื่อนน้องมายด์ให้ข้อมูลการเสียชีวิตของน้องมายด์ ถูกนำร่างไปเผาที่ภูเขาซาบาย่า และสามีให้การรับสารภาพกับตำรวจโอมานแล้ว (ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'มาดามโอมาน'แจ้งข่าวเศร้า! ตร.พบร่าง'น้องมายด์'ถูกเผาบนเขา)

นางปวีณา กล่าวว่า น้องมายด์ หรือ รีม เดินทางไปอยู่ที่บังคลาเทศตั้งแต่ปี 2563 และกลับมาประเทศไทยในระยะสั้นๆ เมื่อปี 2567 ก่อนจะไปอยู่กับสามีที่ชื่อคาเร็ก ทางเพื่อนได้ข่าวมาตลอดว่าน้องมายด์ถูกทำร้ายร่างกาย จน 3 เดือนสุดท้ายไม่พบน้องมายด์ หรือ น้องรีม ต่อมานายคาเร็กถูกตำรวจจับกุมในคดียาเสพติด โดยคาเร็กให้การปฏิเสธว่าไม่รู้ว่าน้องมายด์อยู่ที่ไหน ซึ่งเพื่อนของน้องมายด์ได้กลับมาจากต่างประเทศเมื่อวานนี้ ให้ข้อมูลว่าน้องมายด์อาจจะเสียชีวิตแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ยืนยันในข้อเท็จจริง จึงอยากให้ตำรวจกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ช่วยประสานกับตำรวจสากล เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง น้องมายด์ถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีหลักฐานการทำร้ายร่างกายจนไม่สามารถเดินได้ ทั้งนี้ ได้ประสานตำรวจสากลไทย และกระทรวงต่างประเทศ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไป


เพื่อนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า น้องมายด์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้คบหากับสามีชาวบังกลาเทศ คนนี้มานานกว่า 5 ปี ตลอดระยะเวลาทุกคนทราบว่าผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด โดยเมื่อปีที่แล้ว ผู้เสียหายได้เดินทางกลับมาที่ประเทศไทย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ก่อนจะเดินทางกลับไปอีกครั้ง ซึ่งระหว่างที่เดินทางกลับไปรอบที่ 2 ก็ได้ประสานให้ตัวเองซื้อของจากประเทศไทยและนำไปให้ที่ห้องพัก เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 โดยระหว่างที่ตัวเองนำของไปให้ผู้เสียหาย ก็สังเกตเห็นว่าร่างกายของผู้เสียหายถูกทำร้ายมีสภาพซูมผอม หน้าตาบวมปูด ตาปิด กรามยุบ มือและนิ้วบิดผิดรูป และมีร่องรอยฟกช้ำตามร่างกายทั้งแผลใหม่แผลเก่า ก่อนที่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะทราบว่าสามีของผู้เสียหายถูกตำรวจจับในคดียาเสพติด ซึ่งทางตำรวจได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียหาย แต่สามีของมายด์ ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล ประกอบกับในช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ญาติไม่สามารถติดต่อผู้เสียหายได้ จึงรู้สึกเป็นห่วง และเกรงว่าผู้เสียหายจะได้รับอันตราย จึงประสานตำรวจให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง และติดตามหาตัว น.ส.อธิติญา ขณะเดียวกันเพื่อนผู้เสียหายยังระบุว่า กรณีของ น.ส.อธิติญา ไม่ใช่เคสแรกที่ถูกทำร้าย โดยก่อนหน้านี้สามีของผู้เสียหายเคยคบหากับหญิงชาวไทย ซึ่งก็มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายเช่นกัน

เพื่อนของน้องมายด์อีกคน เล่าว่า ตัวเองได้ติดต่อกับเพื่อนชาวบังคลาเทศที่อยู่โอมาน ซึ่งรู้จักกับสามีน้องมายด์ บอกว่า น้องมายด์เสียชีวิตแล้ว โดยถูกนำร่างใสโซฟาขนออกจากอาคารที่พัก ไปเผาเพื่ออำพรางที่ภูเขาซาบาย่า เมืองซาลาลาห์ ประเทศโอมาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เมืองซาลาลาห์ได้สอบปากคำสามีของน้องมายด์ ก็ให้การรับสารภาพ ซึ่งข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ขอให้ตำรวจสากลไทยประสานกับตำรวจสากลโอมานตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ หากกรณีพบร่างที่ถูกเผา ขอให้พิสูจน์ตัวบุคคลว่าเป็นใคร และใครเป็นผู้กระทำ เพื่อจะได้มีความชัดเจน

ขณะที่ นางปวีณา ได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนของมายด์ที่อยู่ในประเทศโอมาน โดยเพื่อนของน้องมายด์ เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ว่า ทางตำรวจเจอร่างน้องมายด์เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการชันสูตรศพอยู่ โดยยืนยันอย่างไม่เป็นทางการว่าเป็นศพของน้องมายด์

ด้าน พ.ต.อ.ศิลา ตันตระกูล ผกก.กองการต่างประเทศ ฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 3 กล่าวว่า ทางตำรวจสากลมีสมาชิกอยู่ 195 ประเทศ โดยตำรวจโอมานก็เป็นสมาชิกของตำรวจสากล การขอความร่วมมือในเรื่องทางคดีเป็นเรื่องปกติของตำรวจสากลที่จะดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่ซับซ้อนในการช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการติดต่อประสานข้อมูลกันกับทางตำรวจสากลฝั่งต่างประเทศโอมาน ส่วนเรื่องของกระบวนการติดตามศพ หรือคนที่ก่อเหตุ ตอนนี้ยังไม่สามารถสืบทราบได้ทันที ทำได้แค่ประสานร้องขอข้อมูลให้ได้มากที่สุด ซึ่งข้อมูลหลักตอนนี้ต้องอยู่กับทางประเทศโอมาน ส่วนในเรื่องของการสืบสวนสอบสวน หรือเรื่องระยะเวลายังไม่สามารถแจ้งได้ แต่ทางตำรวจสากลไทยของกรุงเทพฯ ยืนยันว่าจะทำการติดตามอย่างดีที่สุด

พ่อของน้องมายด์ กล่าวว่า อยากขอให้ตำรวจประสานงานให้ดี อยากรู้ว่าลูกตายจริงหรือไม่ และใครเป็นคนทำ ซึ่ง 6 ปี ไม่ได้พบลูกเลย ได้พูดคุยครั้งสุดท้ายผ่านทางโทรศัพท์เมื่อพฤษภาคม 2567 ลูกสาวไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังว่ามีแฟนหรือไม่มีแฟน ลูกไม่เคยพูดถึง ได้พูดคุยกับลูก โดยลูกบอกให้รักษาตัวให้ดี เพราะแม่ก็ตาไม่ดีทั้งสองข้าง หากมีเงินเมื่อไหร่จะโอนมาให้ แม่ก็พิการ และตัวเองต้องเลี้ยงหลานที่เป็นเด็กพิเศษอีก 1 คน เพราะลูกเป็นเสาหลัก หากลูกตายไปแล้วอยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยดูแล ทั้งนี้ หากลูกเสียชีวิตแล้วจริงๆ ก็อยากนำกระดูกลูกกลับมาทำพิธี

จากสถิติมูลนิธิปวีณาฯ ปี 2567 ปัญหาล่อลวง / ค้าประเวณี / ค้ามนุษย์ สูงถึง 257 ราย แยกเป็น แจ้งเบาะแสค้าประเวณีในประเทศ จำนวน 53 ราย และขอความช่วยเหลือค้าประเวณี / ค้ามนุษย์ ต่างประเทศ 204 ราย กรณีถูกหลอกค้ามนุษยต่างประเทศ มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือกลับมาแล้ว 152 ราย

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top