กทม.เร่งโครงการก่อสร้างถนนให้เสร็จตามแผน ถ.เชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน เตรียมเปิดใช้ปลายมิ.ย.นี้ / ถ.ถนนรามคำแหง ช่วงที่ 2 , ถ.รามคำแหง 24 และถ.หัวหมาก เสร็จปลายปี68 กำชับระบบระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ ย้ำเคร่งปลอดภัย-ไฟฟ้าต้องสว่าง
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างถนนเร่งรัดการก่อสร้างผิวจราจรและทางเท้าให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด ในส่วนโครงการทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีกับถนนพหลโยธิน แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้ดำเนินการก่อสร้าง ช่วงที่ 2 (จากสะพานข้ามคลองลาดพร้าวถึงถนนเทพรักษ์) ก่อสร้างทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 1,000 เมตร ก่อสร้างสะพานข้ามคลองลาดพร้าวขนาด 4 ช่องจราจรพร้อมสะพานคู่ขนาน 1 ช่องจราจร และก่อสร้างถนนระดับราบ ระยะทาง 1,200 เมตร พร้อมระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้า และงานจราจรสงเคราะห์ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 และ ช่วงที่ 1 (จากถนนวิภาวดีรังสิตถึงสะพานข้ามคลองลาดพร้าว) ก่อสร้างถนนขนาด 5 - 6 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 1,600 เมตร ก่อสร้างสะพานข้ามคลองลาดพร้าว ขนาด 4 ช่องจราจร พร้อมสะพานคู่ขนาน 1 ช่องจราจร ก่อสร้างสะพานยกระดับขนาด 1 ช่องจราจรเข้าสนามบินดอนเมือง ก่อสร้างระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และงานจราจรสงเคราะห์ จะแล้วเสร็จและเตรียมความพร้อมเปิดการจราจรปลายเดือนมิถุนายน 2568
นอกจากนี้ ได้ติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างถนนรามคำแหง ช่วงที่ 2 จากคลองบ้านม้าถึงคลองบางชัน เร่งรัดให้แล้วเสร็จตามกำหนด คาดประมาณเดือนธันวาคม 2568 โดยได้สั่งการ กำชับให้ตรวจสอบเรื่องไฟฟ้าแสงสว่างในพื้นที่ก่อสร้างให้เพียงพอ พร้อมจัดแนวแบริเออร์ และจัดช่องทางเดินเท้าให้มีความปลอดภัย รวมถึงติดตั้งไฟกะพริบเตือนบริเวณทางเข้าออกซอยด้วย และให้เร่งรัดการวางท่อระบายน้ำ เชื่อมท่อกับซอยสาธารณะต่าง ๆ เพื่อรองรับการระบายน้ำและแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนนี้ ตรวจสอบความปลอดภัยพื้นที่ก่อสร้าง ให้ปิดฝาบ่อพักท่อระบายน้ำที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง เพื่อป้องกันอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้ทาง รวมถึงให้พิจารณาจุดทางคนเดินข้ามถนน จุดกลับรถให้มีความเหมาะสม ประชาชนสามารถใช้ได้อย่างสะดวกปลอดภัย
ในส่วนของโครงการปรับปรุงถนนรามคำแหง 24 และถนนหัวหมาก ได้สั่งการให้เร่งก่อสร้างระบบระบายน้ำให้แล้วเสร็จ สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อสร้างงานผิวจราจรให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2568 เพื่อคืนพื้นที่ บรรเทาผลกระทบด้านการจราจรและความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้ทาง กำชับในระหว่างก่อสร้างให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เช่น ปิดกั้นพื้นที่ก่อสร้างให้มิดชิดปลอดภัย จัดการจราจรให้เป็นระเบียบ และติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างให้เพียงพอ
ด้านนายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา(สนย.) กล่าวถึงโครงการปรับปรุงถนนรามคำแหง 24 และถนนหัวหมากว่า มีปัญหาอุปสรรคจากพื้นที่ก่อสร้างคับแคบและการจราจรหนาแน่น การทำงานต้องเบี่ยงการจราจรไปมาโดยไม่ลดจำนวนช่องจราจร เพื่อให้งานก่อสร้างกระทบกับการจราจรน้อยที่สุด รวมถึงมีการรื้อย้ายท่อ cross ประปาของการประปานครหลวง (กปน.) ที่อยู่ในแนววางท่อระบายน้ำบริเวณหลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง และอุปสรรคจากการเข้าใช้พื้นที่ในความดูแลของการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างวางท่อระบายน้ำและงานผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) โครงการฯ มีความคืบหน้าร้อยละ 64 คาดว่าจะแล้วเสร็จ และสามารถเปิดใช้งานได้ภายในเดือนธันวาคม 2568 ส่วนปัญหาผิวจราจรชำรุดและมีเหล็กเส้นโผล่ออกมา เป็นผิวจราจรชั่วคราว อนาคตต้องทุบรื้อเพื่อก่อสร้างบ่อพักสำหรับงานท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน และจะก่อสร้างเป็นผิวจราจรถาวร ส่วนจุดที่ผิวจราจรที่ไม่เรียบร้อยบริเวณถนนหัวหมาก เกิดจากขณะเทคอนกรีตมีฝนตกหนัก ทำให้ชะล้างผิวหน้าคอนกรีต ซึ่งโครงการยังไม่ได้ตรวจรับงานและเบิกเงินให้กับผู้รับจ้าง จนกว่าจะแก้ไขให้เรียบร้อย และผลการทดสอบกำลังรับแรงอัดของคอนกรีตต้องผ่านตามมาตรฐาน ทั้งนี้ สนย. ได้กำชับให้เข้มงวดผู้รับจ้างจัดระเบียบพื้นที่ในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและผู้สัญจรในพื้นที่
036
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี