กทม. รุกส่งเสริมความรู้เพศศึกษาโรงเรียนในสังกัด เพิ่มจุดถุงยางอนามัยฟรี รณรงค์ SAFE SEX หวังป้องกัน HIV - โรคติดต่อทางเพศ
วันที่ 17 ก.ค.68 นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กล่าวว่า สำนักการศึกษา (สนศ.) ได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักอนามัย (สนอ.) จัดทำโครงการ/กิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยบูรณาการสอดแทรกความรู้ความเข้าใจ รวมถึงการรณรงค์ป้องกันและสร้างความตระหนักในเรื่องอื่น ๆ เช่น การแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร สุขภาพจิต เพศศึกษา เพศวิถีและความหลากหลายทางเพศ เป็นต้น พร้อมทั้งจัดซื้อผ้าอนามัยฟรี เพื่อสนับสนุนนักเรียนตามนโยบาย “นำร่องผ้าอนามัยฟรี” โดยให้โรงเรียนจัดอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่นักเรียนหญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ เพื่อส่งเสริมสุขภาวะของนักเรียน สร้างความตระหนักและค่านิยมทางเพศศึกษาที่เหมาะสมให้กับนักเรียน เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร รวมถึงสร้างความตระหนักเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ
ที่ผ่านมาโรงเรียนในสังกัด กทม. ทั้ง 437 โรงเรียน ได้บูรณาการจัดการเรียนรู้ควบคู่กิจกรรมในเรื่องเพศศึกษา อนามัยเจริญพันธุ์ การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รวมถึงจัดกิจกรรมรณรงค์และให้ความรู้เรื่องการป้องกันการติดเชื้อ HIV โรคเอดส์ การยอมรับและเข้าใจผู้ติดเชื้อ HIV เนื่องในวันเอดส์โลก เป็นประจำทุกปี และรณรงค์เปิดเพลง “รักเมื่อพร้อม” ของชมรม TO BE NUMBER ONE ประจำโรงเรียนในกิจกรรมหน้าเสาธงเป็นประจำทุกวัน โดยมีจังหวะดนตรีสนุกสนาน สามารถออกแบบท่าเต้น กายบริหาร เป็นกิจกรรมเข้าจังหวะหน้าเสาธงได้ด้วย และมีเนื้อหาเตือนใจให้เด็กและเยาวชนทั้งเพศชายและหญิงเห็นคุณค่าในตนเอง ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่เยาวชน เพื่อหล่อหลอมให้เด็กและเยาวชนมีทักษะชีวิตในการป้องกันตัวเองในเรื่องความปลอดภัยทางเพศ และเรื่องอื่น ๆ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน และเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
ทั้งนี้ กทม. ได้ร่วมเปิดโครงการพัฒนาแนวทางบูรณาการเรื่องการส่งเสริมสุขภาวะของเยาวชนหลากหลายทางเพศของโรงเรียนในสังกัด หรือโครงการลูกแก้ว ซึ่งเป็นโครงการที่จัดทำโดยมูลนิธิ M PLUS เพื่อส่งเสริมสุขภาวะอย่างรอบด้านโดยเฉพาะบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศและเยาวชน มีเป้าหมายลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่และลดการเสียชีวิตจากเอดส์ รวมถึงจัดบริการตรวจเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บริการยาป้องกันก่อนสัมผัสเชื้อเอชไอวี (PiEP) และส่งต่อยารักษาการต้านไวรัสในสันเดียวกับที่รู้ผลเอชไอวี โดยมีแนวทางการพัฒนากลไกแบบบูรณาการกับโรงเรียน หรือโครงการ To Be Number One ของโรงเรียน เพื่อเปิดพื้นที่ให้โรงเรียนที่ร่วมโครงการได้นำเสนอรูปแบบการส่งเสริมสุขภาวะของเยาวชนหลากหลายทางเพศ
ด้านนางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าวว่า สนอ.ได้จัดกิจกรรมการส่งเสริมความรู้การประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตนเองให้กับกลุ่มเยาวชนโรงเรียนในสังกัด และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) จากศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. เป็นแกนนำกระจายความรู้และแบบประเมินความเสี่ยงฯ รณรงค์ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มเกี่ยวกับวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ สร้างความเข้าใจลดการตีตราและเลือกปฏิบัติ พร้อมทั้งส่งเสริมความรู้เรื่องเพศศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนโรงเรียนในสังกัดผ่านการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับช่วงวัยควบคู่กับการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการมีความรักอย่างสร้างสรรค์ การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย (SAFE SEX) และให้ความสำคัญกับการเข้าถึงบริการสุขภาพทางเพศที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ รวมทั้งการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ทั้งนี้ ได้อำนวยความสะดวกการเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ มีบริการจุดรับถุงยางอนามัยฟรี และรณรงค์ให้สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งกับทุกคน โดยได้เพิ่มจุดกระจายถุงยางอนามัยในสถานศึกษาในสังกัด ศูนย์สุขภาพชุมชน เครือข่ายร้านยาคุณภาพในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือขอรับได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. 69 แห่ง
036
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี