พระสังฆราชตรัสให้เด็ดขาด

ฟันพระนอกรีต

‘ภูมิธรรม’น้อมรับเร่งแก้ก.ม.

ฝากขังสีกากอล์ฟ-นอนคุก

ค้นวัดประยุรฯตรวจบัญชี

ตร.คุมตัวสีกากอล์ฟ ไปขออำนาจศาลฯ ฝากขัง คัดค้านประกัน ก่อนส่งตัวเข้าเรือนจำฯ ด้าน “ภูมิธรรม” เผยสมเด็จพระสังฆราชรับสั่งให้สังคายนากฎหมายสงฆ์ ให้เพิ่มโทษ ทรงย้ำอย่าให้พระพุทธศาสนาเสื่อม ส่วน ‘สุชาติ’ พร้อมน้อมนำไปปฏิบัติ ขณะที่ปปท.-ปปป.ตรวจสอบบัญชี-เส้นเงินอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เกี่ยวพันสีกากอล์ฟ ตำรวจจับมือ พศ.เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ตรวจสอบบัญชีวัดประยูร

เมื่อวันที่ 17กรกฎาคมผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.นำกำลังตำรวจ บก.ปปป.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบการกระทำที่เข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ของพระผู้ใหญ่ในวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ภายหลังพบว่าเข้าไปมีส่วนพัวพันกับ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ หรือสีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี โดยพบภาพและคลิปในโทรศัพท์มือถือของสีกากอล์ฟ ในลักษณะที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง บางรายมีหลักฐานการโอนเงินให้กัน รวมภาพถ่ายกว่า 80,000 ภาพ และคลิปอีกกว่า 5,000 คลิป โดยมีพระที่ลาสิกขาไปแล้ว 11รูป ส่วนสีกากอล์ฟ ถูกจับกุมดำเนินคดีฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง ว่าช่วงสายวันเดียวกัน พ.ต.อ.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผกก.2 บก.ปปป.ได้ขอเบิกตัวน.ส.วิลาวัลย์ หรือสีกากอล์ฟ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง ออกจากห้องขัง บช.ก.เพื่อไปขออำนาจศาลฯ ฝากขัง เป็นครั้งแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สีกากอล์ฟ ยังคงสวมใส่เสื้อผ้าชุดเดิม นับตั้งแต่ถูกจับกุมตัวโดยระหว่างเดินขึ้นรถของตำรวจ บรรดาสื่อมวลชนที่มาเฝ้าติดตามทำข่าว ได้พยายามสอบถามถึงข้อกล่าวหาของสังคมที่ว่า “คุณเป็นมารศาสนาหรือไม่” แต่สีกากอล์ฟไม่ตอบอะไร ก่อนจะเดินขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ไป ก่อนหน้านี้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา สีกากอล์ฟ มีความกังวลและเครียด กระทั่งช่วงเช้าตำรวจนำข้าวไปให้ ก็พบว่าสีกากอล์ฟมีสีหน้าไม่สู้ดี แต่รับประทานอาหารได้ตามปกติ โดยไม่พบว่ามีญาติเดินทางเข้าเยี่ยมแต่อย่างใด

ต่อมา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พนักงานสอบสวน บก.ปปป.คุมตัวสีกากอล์ฟ มาขออำนาจศาลฯ ฝากขังครั้งแรก มีกำหนด 12 วันโดยยื่นคำร้องต่อศาลฯ ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตฯ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดฯ, รับของโจร, สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง มีผู้เสียหายจำนวนมาก และเกรงว่าหากได้รับการประกันตัว ผู้ต้องหาจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ทั้งนี้ ศาลฯ มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังมีกำหนด 12 วัน ต่อมาสีกากอล์ฟ ไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขัง ทำให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้คุมตัวไปคุมขังยังทัณฑสถานหญิงกลางทันที

วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวภายหลังเข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ว่าสมเด็จพระสังฆราชทรงประทานพรให้มุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ เรื่องที่เกี่ยวกับวงการสงฆ์ ท่านต้องการความร่วมมือทุกฝ่าย และประเด็นสำคัญคือการคงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ท่านบอกให้จัดการได้เต็มที่ในทางศาสนาก็มีโทษอยู่แล้วถึงขั้นปาราชิก ก็ต้องให้ออกไป

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้เรียนไปว่าอาจจะต้องมีการแก้กฎหมาย ซึ่งตนได้คุยกับพระมหาวีรวงศ์ด้วย ท่านก็บอกว่าขอให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด หาแนวทางเพิ่มอำนาจ รวมถึงบทลงโทษให้มากยิ่งขึ้น และเอาจริงเอาจังมากขึ้น ตนก็แจ้งท่านไปว่าหากดำเนินการเสร็จแล้วจะมากราบบังคมทูลให้ทราบ และนำเข้ามหาเถรสมาคม (มส.)โดยได้พูดคุยกับนายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)แล้ว คงต้องร่วมมือกันซึ่งถือว่าเป็นการสังคายนาทั้งหมด

เมื่อถามว่าทางตำรวจบอกว่าพศ.ไม่ให้ความร่วมมือและมีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้อง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีหรอก ท่านก็ตรัสว่าให้จัดการให้เด็ดขาด ต่อข้อถามว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.ระบุด้วยว่าเตรียมเปิดคดีใหม่ ซึ่งมีพระในระดับชั้นสมเด็จแต่ไม่เกี่ยวกับกรณีสีกากอล์ฟ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ขณะนี้ได้คุยกับพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.โดยให้พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ทำเต็มที่ เป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติ และให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาเสริมด้วย

ขณะที่นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้น้อมนำข้อห่วงใยของสมเด็จพระสังฆราช เกี่ยวกับเรื่องพระสงฆ์ที่เกิดขึ้น พร้อมพิจารณาแนวทางเสนอแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะประเด็นการลงโทษพระที่ประพฤติผิดวินัย รวมถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัด ซึ่งได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ขณะนี้อยู่ในกระบวนการศึกษาเพื่อความรอบครอบ รัดกุม และครอบคลุม และได้กำชับให้นำไปสู่การดำเนินการอย่างเร็วที่สุด

“ได้เตรียมประสานงานไปยังกระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่มีอำนาจจับกุม เรื่องนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งดำเนินการแล้ว เพราะทราบดีว่ากระทบกับความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทุกคน แต่ผมยังยืนยันว่าในฐานะชาวพุทธ เราต้องยืนหยัดปกป้องพระศาสนา ความผิดเป็นเรื่องของบุคคล” นายสุชาติ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ธนาชัย เวศอุไร ผอ.กลุ่มงานปราบปรามการทุจริตภาครัฐ 2 ปปท. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป.ร่วมกันตรวจสอบบัญชีและเส้นทางการเงินของอดีตพระราชรัตนสุธี อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก โดยมีพระครูรัตนสุตาภรณ์ อดีตรอง ผอ.วิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช ร่วมสังเกตการณ์ในฐานะผู้ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการภายในวิทยาลัยสงฆ์ฯ

สำหรับการตรวจสอบครั้งนี้ มีขึ้นภายหลังพระราชรัตนสุธี ได้ลาสิกขาอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่วัดสว่างอารมณ์ อ.บ้านตาก จ.ตาก ท่ามกลางกระแสข่าวที่เชื่อมโยงถึงความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเชิงลึกจากหลายหน่วยงาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับธุรกรรมทางการเงินที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติช่วงก่อนการลาสิกขา รวมถึงการใช้จ่ายของวัด และกองทุนทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยสงฆ์ฯ

พระครูรัตนสุตาภรณ์ อดีตรอง ผอ.วิทยาลัยสงฆ์ฯ เปิดเผยว่า วิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้ขอยืนยันว่าอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ไม่สามารถเบิกเงินด้วยตนเองเพียงคนเดียวได้เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ดูแลการเบิกจ่ายทุกขั้นตอน มีหลายบุคคลและมีทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และการตรวจสอบภายในวิทยาลัยสงฆ์ฯ เข้ามาดูแลอีกด้วย ทำให้รายรับรายจ่ายในวิทยาลัยสงฆ์ฯ โปร่งใส

ทั้งนี้ ตำรวจ บก.ปปป.เตรียมขยายผลการสอบสวนไปยังบุคคลใกล้ชิด และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม หากพบพฤติกรรมหรือพยานหลักฐานที่อาจเข้าข่ายกระทำผิดทางวินัย หรือกฎหมายแพ่งและอาญา เบื้องต้นการเคลื่อนที่ตรวจพบบัญชีที่เชื่อมโยงกับสีกากอล์ฟ3 บัญชี โดยเน้นการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือวัดใหญ่ เป็นหลัก เนื่องจากสนับสนุนทุกเดือนๆ ละ 400,000 บาท ซึ่งอาจมีการเบิกจ่ายที่ไม่ถูกต้อง เชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินในบัญชีของสีกากอล์ฟ

พ.ต.อ.ศานุวงษ์ กล่าวว่า เดินทางมาตรวจสอบว่าที่วิทยาลัยสงฆ์ฯ มีบัญชีต่างๆ ซึ่งมีความผิดปกติหรือไม่ และดูว่าเจ้าคณะจังหวัดรูปเก่านั้นมีการเบิกจ่ายอะไรไปบ้าง เนื่องจากมีมูลเหตุที่สีกากอล์ฟ ได้รับโอนเงินจากอดีตพระผู้ใหญ่หลายท่าน ซึ่งพฤติกรรมจะคล้ายๆกัน และเจ้าหน้าที่คิดว่าอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก จะไม่ได้ใช้เงินส่วนตัวเพียงอย่างเดียว อาจมีการใช้เงินของวัดด้วย ซึ่งตรงนี้จะต้องดูที่บัญชีทั้งหมดและนำไปตรวจสอบ โดยจะมีบัญชีเล็กบัญชีน้อย ก็จะต้องตรวจสอบว่าบัญชีปลายทางนี้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ อีกทั้งหลายบัญชีอาจไม่ใช่เป็นชื่อของท่านด้วย

ขณะเดียวกันตำรวจ บก.ปปป.ได้ตรวจสอบหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ของพระครูศรีรัตนวิเชียร หรือพระอาจารย์ยอดเพชร เจ้าอาวาสวัดท่าบัวทอง จ.พิจิตร ที่เกี่ยวพันกับสีกากอล์ฟ โดยเป็นคลิปวิดีโอการพูดคุยสนทนาผ่านวิดีโอคอลแอปพลิเคชั่นไลน์ ที่เผยให้เห็นใบหน้าของพระยอดเพชรอย่างชัดเจน ขณะที่เจ้าตัวสารภาพรักสีกากอล์ฟ ว่าเป็น “หญิงสาวคนแรกที่รัก” แม้การกระทำดังกล่าวอาจจะยังไม่ถึงขั้นปาราชิก แต่ก็ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

ก่อนหน้านี้พระอาจารย์ยอดเพชร ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าว ว่าได้รู้จักกับสีกากอล์ฟ เมื่อปี 2563 ช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด ทางวัดฯ ได้รวบรวมของเพื่อแจกชาวบ้านซึ่งทางสีกากอล์ฟได้เข้ามาช่วยเหลือและติดต่อกับทางวัดเรื่อยมา และโอนเงินมาช่วยทำบุญบ่อยครั้ง จากนั้นมีการมาขอยืมเงินโดยให้เหตุผลว่าหมุนเงินไม่ทัน ซึ่งยืนยันว่าเงินที่โอนให้เป็นเงินส่วนตัวยินดีที่จะให้ตรวจสอบทุกอย่าง

อีกด้านหนึ่ง ที่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ภายหลังพระเทพปวรเมธี หรือเจ้าคุณประสิทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดฯ ได้ลาสิกขาเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่วัดในพื้นที่ จ.นครปฐม หลังจากมีภาพถ่ายและแชตข้อความเกี่ยวพันกับสีกากอล์ฟ บรรยากาศที่วัดฯ เป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่มพระสงฆ์รูปใดให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีที่อดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ ลาสิกขา และไม่มีการยืนยันว่ากลับมาเก็บข้าวของในกุฎิหรือไม่

ส่วนในช่วงบ่ายวันเดียวกัน กำลังตำรวจ บก.ปปป.ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าพบพระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรฯ เพื่อขอตรวจสอบบัญชีและเอกสารทางการเงินของวัด ว่ามีความผิดปกติหรือมีความเชื่อมโยงกับพฤติกรรมของอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ หรือไม่โดยเบื้องต้นทางวัดได้จัดเตรียมทั้งหมดไว้รอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังจากมีการตรวจสอบในครั้งนี้