เจ้าอาวาส‘วัดม่วง’ยอมรับแล้ว
เอาทองไปขาย
‘บิ๊กเต่า’เค้นหนัก-รับสารภาพ
ตร.บุกค้นมจร.นครสวรรค์
โยงสีกาคนสนิททิดสฤษดิ์
พบพิรุธเงิน100ล.เหลือ1ล.
เจ้าอาวาสวัดม่วง รับแล้วเอาทองไปขาย “บิ๊กเต่า” เผยให้การไม่ตรงข้อเท็จจริง อ้างจำได้บ้างไม่ได้ บ้าง จ่อดำเนินคดี ส่วนตำรวจ ปปป.ลุยค้น มจร.วิทยาเขตนครสวรรค์ สอบเส้นเงิน โยง ดร.สาว คนสนิททิดสฤษดิ์เค้นสอบกรรมการพุทธอุทยานฯ รอง ผบช.ก.ย้ำหากพบใครเกี่ยวข้องดำเนินคดีทั้งหมด อึ้งเงินบริจาคหลักร้อยล้านลดฮวบ ปัจจุบันตรวจสอบพบเหลือเงินในบัญชีแค่หลักล้านบาท
เมื่อวันที่ 22กรกฎาคมพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.กล่าวถึงกรณีที่พระราชวัชรพัฒนาทรหรือเจ้าคุณณรงค์เจ้าอาวาสวัดม่วง แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม.ได้มอบหมายให้ไวยาวัจกร เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.เพชรเกษม ว่าเงินสด 10 ล้านบาท และทองคำน้ำหนักกว่า 250 บาท รวมมูลค่ากว่า 22 ล้านบาท หายไปอย่างมีปริศนา นับตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่าจากการสอบถามทางเจ้าอาวาสวัดฯ ตัวท่านเองยอมรับว่าจำได้บ้าง จำไม่ได้บ้าง ลืมบ้าง ซึ่งก็เข้าข่ายหมิ่นเหม่ที่จะถูกดำเนินคดีด้วย
ส่วนจะมีการซื้อ-ขายทองตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะการไล่เส้นทางการเงินต่างๆ แต่จะไปลงลึกว่าเจอทองกี่บาทนั้น ยังไม่ทราบ เพราะรู้เพียงคร่าวๆ ว่าท่านพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง รู้แค่ว่าท่านจำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เมื่อถามว่าท่านจำได้หรือไม่ว่าเอาทองไปขายจำนวนเท่าไหร่พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ก็ความจำเริ่มดีขึ้น หลังจากการซักถามข้อเท็จจริง เบื้องต้นก็ยอมรับว่าเอาทองไปขายจริงๆ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ หรือทิดสฤษดิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีกระแสข่าวพัวพันกับเรื่องเงินวัดและสีการะดับเศรษฐินีของ จ.นครสวรรค์ โดยมีภาพหลุด เป็นภาพคนหน้าคล้าย โดยสวมวิกและเขียนคิ้ว ปรากฏออกมาตามสื่อต่างๆและมีการเปิดเผยอีกว่ายังมีโลกสองใบหรือคบหาสีกาถึง 3 คน ว่าพ.ต.อ.สมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ปปป.นำกำลัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปท.เข้าตรวจค้นอาคารสำนักงานมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตนครสวรรค์ ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพื่อหาหลักฐานเส้นทางการเงินของวัดนครสวรรค์ ตามที่ทิดสฤษดิ์เคยดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีมจร.วิทยาเขตนครสวรรค์ และผศ.ดร.หญิงคนสนิทของทิดสฤษดิ์ซึ่งทำหน้าที่รักษาการ ผอ.สำนักงานวิทยาเขตนครสวรรค์
ทั้งนี้ พ.ต.อ.สมรภูมิ ได้แบ่งกำลังกันเข้าตรวจค้นห้องทำงานของ ผศ.ดร.รายดังกล่าว โดยมีพระครูสุธาธรรมบัณฑิตในฐานะ ผอ.สำนักวิชาการ มจร.วิทยาเขตนครสวรรค์ และเลขาฯ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์นำเข้าตรวจค้น ซึ่งเจ้าหน้าที่กระจายกันค้นภายในห้องทำงานของ ผอ.เบื้องต้นพบว่าเอกสารบางอย่างได้ถูกเคลื่อนย้ายไปบ้างแล้ว รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ประจำสำนักงานในลักษณะมีการเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บเอกสารบางอย่างไปเพื่อใช้ประกอบพยานหลักฐาน
ต่อมา พ.ต.อ.สมรภูมิ ได้สอบถามพระครูสุธาธรรมบัณฑิต เกี่ยวกับขั้นตอนการบริหารงานของ มจร.ทั้งส่วนกลางและสำนักวิทยาเขตทั่วประเทศ โดยทราบว่ามีรูปแบบเป็นคณะกรรมการในแต่ละฝ่ายตามขั้นตอนการดำเนินงาน นอกจากนี้ยังสอบถามว่า ดร.คนสนิทอดีตผู้บริหาร มจร.วิทยาเขตนครสวรรค์ เข้ามาสมัครเป็นอาจารย์ได้อย่างไร เลขาฯ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ระบุว่าได้รับการสนับสนุนจากอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์และพบกันในขณะที่ ดร.คนดังกล่าวเดินทางมาทำบุญที่วัดนครสวรรค์ และเห็นว่าตกงานอยู่ แต่มีความรู้เรื่องการเงินการบัญชีจึงชักชวนให้มาทำงานด้วยและได้รับการบรรจุให้เป็นอาจารย์ รวมทั้งได้รับการสนับสนุนให้ทำหน้าที่ ผอ.สำนักงาน มจร.วิทยาเขตนครสวรรค์ เพื่อดูแลการเงินและบัญชีของ มจร.วิทยาเขตจังหวัดนครสวรรค์
ส่วนเรื่องการลาออกจากตำแหน่ง ผอ.สำนักงาน มจร.วิทยาเขตนครสวรรค์ ยังไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะต้องผ่านการประชุมคณะกรรมการบริหารงานบุคคลทั้งระดับวิทยาเขตและระดับส่วนกลางที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และการลาออกครั้งนี้ไม่ได้ลาออกจากการเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัย เป็นเพียงการลาออกจากหน้าที่ ผอ.สำนักวิทยาเขตนครสวรรค์เท่านั้น โดยมาทำหน้าที่เดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจ บก.ปปป.สอบถามอีกว่าใช้เวลานานแค่ไหนจึงสามารถขึ้นเป็นระดับ ผอ.ได้ พระครูสุธาธรรมบัณฑิต กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผู้บริหารเนื่องจากการทำหน้าที่เป็นการแต่งตั้ง ส่วนจะใช้เวลานานเท่าใดนั้นจำไม่ได้ แต่คงเหมือนส่วนราชการทั่วไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เดินทางไปตรวจอาคารพุทธอุทยาน จ.นครสวรรค์ ซึ่งมีรั้วติดกับวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ สถานที่ก่อสร้างพุทธอุทยาน จ.นครสวรรค์ ซึ่งกำลังก่อสร้างองค์พระศรีสัพพัญญู องค์พระประธานพุทธอุทยานที่ยังสร้างไม่เสร็จ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยมีการนำหนึ่งในคณะกรรมการก่อสร้างมาสอบปากคำด้วยพร้อมกับนำเอกสารจำนวนมากมามอบให้ตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบเอกสารที่วัดนครสวรรค์เพิ่มเติมต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีทิดสฤษดิ์ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่หน้างานยังคงอยู่ในพื้นที่เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากพบความผิดปกติหลายเรื่อง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการลาออกของรักษาการ ผอ.มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตนครสวรรค์ และความเกี่ยวข้องของบุคคลอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องมีการสอบปากคำและเก็บรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียดยอมรับว่าเรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องหลายคน
รอง ผบช.ก.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ได้ยืมเงินจากพระสงฆ์ในวัดที่ กทม.จำนวนมหาศาล ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนการตรวจสอบบัญชีของวัดยังไม่ได้รับรายงานในขณะนี้ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการก่อน หลังจากนี้จะเรียกผู้รับเหมาก่อสร้างพุทธอุทยาน มาสอบปากคำทั้งหมด ยืนยันว่าจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่างโดยสิ่งที่น่าสงสัยและต้องตรวจสอบอย่างละเอียดคือเหตุใดการที่พระสงฆ์มีสีกาเข้ามาเกี่ยวข้องหลายคนเป็นสิบปี จึงเพิ่งมาปรากฏเรื่องราว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ยังมีเรื่องน่าสงสัยอื่นๆ ที่ต้องดำเนินการ เช่น กรณีของ มจร.การสร้างพุทธอุทยาน และเงินในบัญชีที่เหลือน้อยมาก บ่งบอกถึงความผิดปกติ เงินบริจาคการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน ที่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง และเงินบริจาคจากวัดห้วยด้วนที่มอบให้อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ เมื่อพยานหลักฐานและข้อมูลต่างๆ ทุกอย่างพร้อม ก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมาย
มีรายงานข่าวว่าวัดนครสวรรค์ได้รับเงินบริจาคหลายร้อยล้านบาท สำหรับโครงการก่อสร้างพุทธะอุทยาน โดยอดีตนักธุรกิจที่ชื่อ“เสี่ย อ.” ซึ่งเสียชีวิตจากการทำอัตวิบากกรรม เคยบริจาคเงินให้สูงถึง 50 ล้านบาท แต่ข้อมูลการเงินกลับขัดแย้งกับยอดเงินในบัญชีวัดที่พบในปัจจุบันซึ่งเหลือเพียงหลักล้านบาท จึงเป็นประเด็นที่ทางตำรวจให้ความสนใจและเร่งตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเน้นไปที่การสืบหาเส้นทางการโยกย้ายถ่ายเทเงินด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตรวจสอบได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี