จังหวัดนครพนม หนุน“โครงการเหลียวหลัง” เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของประตูระบายน้ำลุ่มน้ำก่ำ

วันที่ 21 สิงหาคม 2568 เวลา 14.30 น. สำนักงานชลประทานที่ 7 โดย นายปริญญา คัชมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 7 มอบหมายให้ นายฐิฏิภัทร ฐิฏิภัทรสกุล ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม พร้อมด้วย นายยอดรัก หนึ่งคำมี หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม นายเอกชัย บุญมาวงษา หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำก่ำ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่วางแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของประตูระบายน้ำ ลุ่มน้ำก่ำ จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งใน “โครงการเหลียวหลัง” เพื่อสำรวจ วางแนวทางการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของการไหล และการระบายน้ำ ณ ปตร.บ้านหนองบึง อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร 

โครงการเหลียวหลัง (Look Back Project) เป็นโครงการของกรมชลประทานที่มีเป้าหมายในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการชลประทานเดิมที่ใช้งานมานาน โดยเฉพาะโครงการที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี ซึ่งโครงการนี้มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเดิม การเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำ และการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อให้โครงการชลประทานสามารถใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพและยั่งยืน

ลำน้ำก่ำ เป็นลำน้ำสายหลักของลุ่มน้ำก่ำ มีความยาว ประมาณ 123 กิโลเมตร มีประตูระบายน้ำสำหรับทดน้ำเป็นช่วงๆ ในช่วงฤดูน้ำหลากมักประสบปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรบริเวณสองฝั่งลำน้ำเป็นประจำเกือบทุกปี โดยเฉพาะบริเวณประตูระบายน้ำบ้านหนองบึง ซึ่งรับน้ำต่อจากหนองหานในเขตจังหวัดสกลนคร  ลำน้ำก่ำช่วงบริเวณด้านหน้าประตูระบายน้ำบ้านหนองบึงจะมีลักษณะคดเคี้ยว บางช่วงของลำน้ำแคบ และตื้นเขิน  จึงทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง และท่วมขังในช่วงฤดูฝน  อีกทั้งในช่วงฤดูแล้งปริมาณน้ำลดลง หรือฝนทิ้งช่วง ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาขาดแคลนน้ำด้านการเกษตร และการอุปโภค - บริโภค 

ทั้งนี้ จึงได้วางแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในพื้นที่ดังกล่าวโดยการปรับปรุงเพิ่มความจุของลำน้ำโดยการขุดลอก พร้อมเสริมคันพนังช่วงที่ระดับตลิ่งต่ำ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของประตูระบายน้ำเดิม เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร บริเวณสองฝั่งลำน้ำและเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักสำหรับใช้ในช่วงฤดูแล้ง และเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีปริมาณน้ำที่เพียงพอสำหรับการอุปโภค - บริโภค สร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกรในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป