อุตุฯเตือนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” มีแนวโน้มทวีความรุนแรงจ่อเข้าเวียดนาม-ลาว ส่งผลกระทบประเทศไทย เกิดฝนตกหนัก-ลมแรง 16 จว. ช่วง 25-27 สิงหาคม ด้าน ‘ภูมิธรรม’สั่งผู้ว่าฯทั่วไทย-กทม.เกาะติดสถานการณ์พายุ‘คาจิกิ’ ตั้งวอร์รูม เตรียมแผนเผชิญเหตุตามที่ซักซ้อน ดูแลประชาชน24ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 24สิงหาคมกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง พายุ “คาจิกิ” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 8 (211/2568) ดังนี้ เมื่อเวลา 07.00 น.วันเดียวกันนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว และเมื่อเวลา 10.00 น.มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 550 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองวิญ ประเทศเวียดนามตอนบน และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนวันที่ 25 สิงหาคม 2568 และจะอ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชันเคลื่อนเข้าสู่ประเทศลาวเช้าวันที่ 26 สิงหาคม 2568 พายุนี้มีแนวโน้มที่จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงและเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณ จ.น่านช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568
จากอิทธิพลดังกล่าว ทำให้ในช่วงวันที่ 24–26 สิงหาคม 2568 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือจะได้รับผลกระทบช่วงวันที่ 25–27 สิงหาคม 2568 โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้กับเส้นทางเดินพายุ ได้แก่ จ.บึงกาฬ หนองคาย นครพนม สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย อุตรดิตถ์ น่าน พะเยา แพร่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอน สำหรับภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากพายุขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ดังนี้ วันที่ 25 สิงหาคม 2568 ภาคเหนือ จ.เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา และอุบลราชธานี ภาคกลาง จ.กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
วันที่ 26-27 สิงหาคม2568 ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี รวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือโทร.0-2399-4012-13 และ 1182
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กล่าวถึงสถานการณ์พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ (KAJIKI)”ว่าได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานครได้ประสานการทำงานและติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
พร้อมกันนั้น ได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ตั้ง War room ร่วมกับทุกจังหวัด เพื่อประเมินสถานการณ์และหากประเมินแล้วพบว่าสถานการณ์จะทวีความรุนแรงในพื้นที่ใด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด สั่งการนายอำเภอในฐานะผู้อำนวยการอำเภอ รวมถึงผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะผู้อำนวยการท้องถิ่น ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุซึ่งมีการทบทวนและซักซ้อมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย การดูแลอาหารการกิน ปัจจัย 4 สำหรับพื้นที่ซึ่งมักพบกับสถานการณ์น้ำท่วมซ้ำซาก ขอให้เตรียมความพร้อมทั้งการขุดลอกและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ สำหรับพื้นที่ซึ่งมีการติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ หรือวัตถุที่มีความสูงตามกฎหมายว่าด้วยอาคาร ให้ประสานกับเจ้าของตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง หากพบว่ามีโอกาสได้รับผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อประชาชน ให้เร่งทำการรื้อถอน
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้หากเกิดฝนตกหนักหรือฝนตกสะสมปริมาณมาก อาจส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ให้ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้สื่อสารสร้างการรับรู้ผ่านหอกระจายข่าวและทุกช่องทางสื่อสารของหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง และปฏิบัติตนตามคำแนะนำของภาครัฐ รวมทั้งสร้างความรับรู้ระมัดระวังข่าวปลอมที่อาจเกิดขึ้นจากผู้ไม่ประสงค์ดีในพื้นที่ด้วย
ในส่วนจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเล ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีคลื่นสูง ให้ดำเนินการตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้งการปักธงสัญลักษณ์ห้ามนักท่องเที่ยวหรือประชาชนเล่นน้ำ การพิจารณาเดินเรือทั้งเรือโดยสาร เรือประมง และหากแนวโน้มสถานการณ์รุนแรง และพบว่าได้มีเรือออกไปจากฝั่งแล้ว ขอให้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำพาเรือเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัย กระทรวงมหาดไทยมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทุกพื้นที่ในการดูแลป้องกันความปลอดภัยจากสาธารณภัยอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนต้องการติดตามข้อมูลข่าวสารสามารถสอบถามข้อมูลหรือขอรับความช่วยเหลือผ่านสายด่วนนิรภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี