จับมือ 3 หน่วยงาน ยกระดับคุณภาพทุเรียนจันทบุรี ด้วยมาตรฐานทางห้องปฏิบัติการ คุมเข้ม BY2 และแคดเมียม แก้วิกฤตส่งออก

จับมือ 3 หน่วยงาน ยกระดับคุณภาพทุเรียนจันทบุรี ด้วยมาตรฐานทางห้องปฏิบัติการ คุมเข้ม BY2 และแคดเมียม แก้วิกฤตส่งออก

วันพุธ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2568, 17.59 น.
Tag :

จับมือ 3 หน่วยงาน ยกระดับคุณภาพทุเรียนจันทบุรี ด้วยมาตรฐานทางห้องปฏิบัติการ คุมเข้ม BY2 และแคดเมียม แก้วิกฤตส่งออก

องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน-มังคุด และบริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เซ็นทรัลแล็บไทย ร่วมลงนามความร่วมมือภายใต้โครงการ “Chanthaburi Green Smart City สร้างเมืองผลไม้เพื่อการส่งออกด้วยมาตรฐานสากล” สร้างความเข้าใจ และยกระดับมาตรฐานในทุกด้าน ให้กับผู้ประกอบการทุเรียนในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง หลังพบว่าฤดูกาลส่งออกที่ผ่านมา ประเทศคู่ค่าสำคัญ ประเทศจีน ตรวจพบสารปนเปื้อน แคดเมียม และ BY2 และตีกลับสินค้าส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการส่งออก และเกษตรกรจำนวนมาก 


โดยเป้าหมายสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้ คือการสร้างความตระหนัก ในการตรวจมาตรฐานทางห้องปฏิบัติการในทุกขั้นตอน ได้แก่ ดิน น้ำ ปุ๋ย , การตรวจประเมินสวน (GAP), การตรวจสารเคมีตกค้างในผลผลิต เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการยืนยันถึงผลผลิตที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และตามข้อกำหนดของประเทศคู่ค้าสำคัญ คือ จีน ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องมาตรฐานเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก เซ็นทรัลแล็บไทย ในฐานะห้องปฏิบัติการที่ได้รับมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 

นายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ด้วยปัญหาส่งออกทุเรียนหลักที่พบในขณะนี้ คือ การถูกเข้มงวดจากตลาดจีนเรื่องสารตกค้าง (เช่น สาร BY2 และแคดเมียม) ทำให้เกิดการปนเปื้อนและส่งผลให้ถูกตีกลับ รวมถึงการที่ทุเรียนเวียดนามมีต้นทุนต่ำกว่าและส่งออกได้มากขึ้น ทำให้ไทยสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีน นอกจากนี้ ปัญหาภัยแล้ง สภาพอากาศที่แปรปรวน และการพึ่งพาตลาดจีนมากเกินไป ก็เป็นปัจจัยท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนไทยด้วย  สาเหตุและปัญหาหลักการปนเปื้อนสารตกค้าง เนื่องจากตลาดจีนเข้มงวดเรื่องการตรวจสอบสารตกค้าง เช่น สาร BY2 (สารชุบสี) และแคดเมียม ซึ่งพบว่าทุเรียนไทยบางส่วนมีการปนเปื้อน ทำให้เกิดการตีกลับและระงับการส่งออก
โดยภาครัฐได้หาแนวทางแก้ไขเบื้องต้น ในการยกระดับมาตรฐานการผลิตทุเรียนให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของประเทศผู้นำเข้า โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยจากสารตกค้าง โดยการควบคุมและบทลงโทษที่ชัดเจน โดยกรมวิชาการเกษตรต้องเร่งตรวจสอบที่มาที่ไปของสารตกค้าง และมีระบบตรวจสอบพร้อมบทลงโทษที่ชัดเจนสำหรับล้งหรือโรงคัดบรรจุที่ละเมิดมาตรฐาน การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เครื่องวัดเปอร์เซ็นต์แป้ง และระบบ QR Code เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมคุณภาพและการตรวจสอบย้อนกลับ

ด้าน นายมณฑล ปริวัฒน์ นายกสมาคมผู้ประกอบการทุเรียน-มังคุด กล่าวว่า โครงการ “Chanthaburi Green Smart City สร้างเมืองผลไม้เพื่อการส่งออกด้วยมาตรฐานสากล” เพื่อยกระดับสินค้าเกษตรผ่านการพัฒนากระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำภายในจังหวัดจันทบุรีให้ได้รับรองตามมาตรฐานที่กำหนด นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าและสร้างโอกาสการส่งออกในเวทีโลก โดยเฉพาะตลาดจีนที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย คุณภาพ และความยั่งยืน เป้าหมายของเราคือการเปลี่ยนผ่านจากการขายผลไม้ในรูปแบบสินค้าเกษตรทั่วไป ไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มในฐานะ ‘อุตสาหกรรมผลไม้’ ที่มีระบบมาตรฐานสากลรองรับ ทั้งด้านการตรวจสอบย้อนกลับ การรับรอง GAP / Global GAP การใช้เทคโนโลยี AI และ Big Data เพื่อจัดการข้อมูลสวนและผลผลิต ตลอดจนการพัฒนานวัตกรรมในโรงคัดบรรจุที่สะท้อนภาพลักษณ์สินค้ามูลค่าสูง

นายชาคริต  เทียบเธียรรัตน์ กรรมการผู้อำนวยการเซ็นทรัลแล็บไทย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านเซ็นทรัลแล็บไทย มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวน ในการเป็นห้องปฏิบัติการด้านการตรวจสอบสารตกค้าง โดยเฉพาะสถานการณ์ที่จีนเข้มงวดเรื่องการตรวจสอบสารตกค้าง เช่น สาร BY2 (สารชุบสี) ทางเซ็นทรัลแล็บไทย ได้ดำเนินการ พัฒนาวิธีการทดสอบ เพื่อให้ทันสถานการณ์ 

ทั้งนี้ การสุ่มตรวจตัวอย่างดิน โดยเซ็นทรัลแล็บไทย ได้ร่วมกับ อบจ.จันทบุรี และสมาคมฯลงพื้นที่เก็บตัวอย่างดินในทุกอำเภอ ของจังหวัดจันทบุรี สุ่มตัวอย่างจำนวน 450 ตัวอย่าง เข้าตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบว่า ส่วนใหญ่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน GAP DOA ตามที่กรมวิชาการเกษตร กำหนดไว้ ที่ 0.15 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  พบปัญหาเพียง 15 ตัวอย่าง คิดเป็น 3 % ที่มีค่าสูงกว่ามาตรฐาน แต่อยู่ในระดับที่สามารถแก้ไขได้เพื่อให้กลับไปอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด โดยใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ในการปรับปรุงดินแทนการใช้ปุ๋ยเคมี หรือ ปลูกพืชล้มลุก ที่มีคุณสมบัติในการดูดสารแคดเมียมได้ เช่น พืชตระกูลผักกาด และ กะหล่ำ เป็นต้น 

อย่างไรก็ตาม องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี และเซ็นทรัลแล็บไทย มีแผนในการบูรณาการความร่วมมือด้านวิชาการและเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ให้สามารถผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรองตามมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและผู้นำเข้าในต่างประเทศ ผลักดันการส่งออกผลไม้ ไปยังตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตร และส่งเสริมรายได้กลับคืนสู่ประเทศอย่างยั่งยืน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top