‘ชัชชาติ’รับข้อเสนอขบวนคนจนฯ แก้ปัญหาที่อยู่อาศัย

‘ชัชชาติ’รับข้อเสนอขบวนคนจนฯ แก้ปัญหาที่อยู่อาศัย

วันจันทร์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 12.48 น.

“แผ่นดินนี้มีที่ดินเพียงพอสำหรับทุกคน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รับข้อเสนอขบวนคนจนฯ ร่วมหาทางออกปัญหาที่อยู่อาศัยด้วยความเห็นอกเห็นใจ

วันที่ 6 ต.ค.68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับหนังสือ เรื่อง ข้อเสนอและการประชุมหารือเนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานคร จากผู้แทนขบวนคนจนเพื่อสิทธิที่ดินและที่อยู่อาศัย ณ บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า) เขตพระนคร โดยชัชชาติ กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมเป็นวันที่อยู่อาศัยโลก (World Habitat Day) ซึ่งเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญ เป็นพื้นฐานที่ทำให้เรามีความมั่นคง ลูกหลานเรามีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ก็จะมีอาชีพการงานที่ดี


สำหรับหนังสือดังกล่าว มีประเด็นสำคัญซึ่งเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย 9 ข้อ ประกอบด้วย 1.การเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน: ขอให้มีมาตรการรองรับการจัดหาน้ำประปา ไฟฟ้า และการออกทะเบียนบ้านชั่วคราวแก่ชุมชนที่ยังไม่ได้รับสิทธิ 2.การชะลอการไล่รื้อและหาทางออกที่เป็นธรรม: เสนอให้มีการทบทวนหรือชะลอคำสั่งไล่รื้อที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนผู้มีรายได้น้อย 3. โฉนดชุมชน: ผลักดันให้มีการจัดทำโฉนดชุมชนในพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อสร้างหลักประกันสิทธิในการอยู่อาศัย  4. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง: ทบทวนมาตรการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย  5. การวางผังเมืองที่ไม่สอดคล้องกับการพัฒนาที่อยู่อาศัย: เสนอให้มีการปรับปรุงผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริง 6. ที่พักฉุกเฉินสำหรับคนไร้บ้าน (บ้านอิ่มใจ): ขอให้สนับสนุนและขยายโครงการที่พักชั่วคราวอย่างเพียงพอและทั่วถึง 7. การเปิดเผยข้อมูลที่ดินภายใต้การดูแลของกรุงเทพมหานคร: ให้มีการจัดทำฐานข้อมูลและเปิดเผยข้อมูลที่ดินเพื่อใช้ในการวางแผนแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย 8. พื้นที่คุ้มครองเศรษฐกิจของคนจน: กำหนดพื้นที่รองรับและคุ้มครองกิจกรรมทางเศรษฐกิจของคนจน เช่น หาบเร่ แผงลอย ตลาดชุมชน ให้สามารถดำเนินชีวิตและสร้างรายได้อย่างมั่นคง  9. การแต่งตั้งคณะกรรมการร่วม: ขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย โดยมีผู้ว่าฯกทม.เป็นประธาน และให้มีตัวแทนจากภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อร่วมกันกำหนดนโยบายและติดตามการแก้ไขจริงจัง

ภายหลังการรับหนังสือ นาย ชัชชาติ พร้อมด้วยนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เรื่อง เป้าหมายในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชนคนจนโดยเฉพาะในเขตเมืองว่า เมืองจำเป็นต้องมีคนหลากหลายเพื่อที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนเมือง เราจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งปัจจุบันมีชุมชนลักษณะนี้ที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร 2,000 กว่าแห่ง โดยหลักการของเราคือ พยายามทำชุมชนเหล่านี้ให้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น สมมุติว่าเป็นชุมชนที่รุกล้ำริมคลองอยู่ ก็ต้องมีการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พอช. (สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน) กรมธนารักษ์ เพื่อพัฒนาให้เป็นบ้านมั่นคง โดยนำคนออกจากพื้นที่สาธารณะ ไปสู่พื้นที่ที่มีการเช่าอย่างถูกกฎหมาย เพื่อทำให้เกิดความมั่นคงในชีวิตและสามารถปักหลักฐานได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกไล่รื้อเมื่อไร

ด้านนายศานนท์ กล่าวว่า ในส่วนของการต้องทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน กทม. ได้มีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง โดยปัญหาคือ เรามีเครื่องมือ “บ้านมั่นคง” เป็นหลัก ซึ่งตั้งแต่ปี 2546 โครงการบ้านมั่นคงมีอัตราการกู้จาก พอช. ประมาณ 5,000 - 6,000 หลังคาเรือน แต่ในระยะหลังจะเหลือ 100 - 200 หลังคาเรือน นั่นแปลว่า ศักยภาพที่ชาวบ้านจะเข้าถึงแหล่งเงินน้อยลง เราจึงตั้งสำนักงานใหม่ขึ้นมาชื่อ “สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย” โดยที่ไม่ต้องใช้เงิน กทม. แต่เป็นการทำอย่างไรให้ชาวบ้านเข้าถึงกองทุนของ พอช. ซึ่งตอนนี้เราพาชาวบ้านเข้าไปประมาณ 1,800 หลัง และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการกู้ หลังจากนั้นก็จะมีที่ดินที่ชาวบ้านไปได้มา เช่น ที่การรถไฟ ที่ธนารักษ์ เราก็จะมีกระบวนการในการทำให้บ้านที่ไม่มั่นคงทั้งหมด ซึ่งมี 450 ชุมชน เข้าถึงที่ดิน และเข้าถึงกองทุนของ พอช. ต่อไป

036

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top