'กรมการข้าว'ห่วง'ข้าววัชพืช'ระบาดหนักภาคอีสาน-ภาคกลาง แนะ 10 วิธีป้องกันและกำจัด ลดการระบาด

'กรมการข้าว'ห่วง'ข้าววัชพืช'ระบาดหนักภาคอีสาน-ภาคกลาง แนะ 10 วิธีป้องกันและกำจัด ลดการระบาด

วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 15.28 น.

กรมการข้าว ห่วง “ข้าววัชพืช” ระบาดหนักภาคอีสาน และ ภาคกลาง แนะ 10 วิธี ป้องกันและกำจัด ลดการระบาด

ข้าววัชพืช คือ ข้าวที่เกิดจากการผสมพันธุ์ข้ามระหว่างข้าวป่าที่พบทั่วไปในธรรมชาติกับข้าวปลูก


ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่ชาวนาไม่ต้องการ คือ ปลายเมล็ดมีหางยาว ออกดอกเร็วกว่าข้าวปลูก เมล็ดสุกแก่ก่อน และร่วงเกือบหมดก่อนเวลาเก็บเกี่ยว โดยจะสังเกตได้จากสีของข้าวเปลือกและสีของเยื่อหุ้มเมล็ด ที่จะมีสีแดงน้ำตาล สีแดง และอาจมีสีขาวได้ ข้าววัชพืช สามารถจำแนกตามลักษณะภายนอกของข้าววัชพืชได้เป็น 3 ลักษณะ คือ ข้าวหางหรือข้าวนก ข้าวแดงหรือข้าวลาย และข้าวดีดหรือข้าวเด้ง

ในช่วงระยะเวลา 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา ข้าววัชพืชได้มีการระบาดมาอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มการระบาดขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น โดยในปัจจุบัน ข้าววัชพืชได้ระบาดรุนแรงเป็นจำนวนมากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ปลูกข้าวของพี่น้องชาวนาเป็นอย่างมาก กรมการข้าวหน่วยงานที่มีภารกิจหลักเกี่ยวกับข้าวและชาวนา จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบและ ประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ให้แก่ชาวนาถึงวิธีป้องกันและกำจัดข้าววัชพืช โดยพี่น้องชาวนาสามารถดำเนินการตามคำแนะนำของกรมการข้าวได้ ดังนี้

1. เลื่อนเวลาปลูกไปเป็นช่วง กลางเดือน ก.ค. – ส.ค. ที่ช่วยลดจำนวนข้าววัชพืชได้มาก

2. เลือกใช้เมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือมีคุณภาพเทียบเท่าเมล็ดพันธุ์ข้าวจากกรมการข้าว

ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเมล็ดพันธุ์มีมาตรฐาน ไม่มีพันธุ์ปน ความงอกสูง แข็งแรงสามารถแข่งขันกับวัชพืชได้

3. ล่อให้งอกแล้วไถกลบ โดยการเตรียมดิน – ปล่อยให้งอก แล้วไถกลบ 1–3 ครั้ง จะสามารถลดข้าววัชพืชได้มากกว่า 50% นอกจากนี้ให้ปลูกปอเทืองร่วมด้วย จะช่วยปรับดินและกำจัดวัชพืชไปพร้อมกัน

4. เตรียมดินให้ดี โดยการไถ พรวน ตีดิน 1 รอบ แล้วคราดทำเทือกให้เรียบ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนปลูก

5. ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสม โดยการ ปักดำ : ให้ใช้ปริมาณเมล็ดพันธุ์ 7 – 10 กก./ไร่

ส่วนนาหว่าน : ให้ใช้ปริมาณเมล็ดพันธุ์ 18 – 24 กก./ไร่ ซึ่งการใช้อัตราที่เหมาะสมจะช่วยให้ข้าวโตเร็ว แข่งกับวัชพืชได้

6. เปลี่ยนวิธีปลูกจาก “นาหว่าน” ให้เปลี่ยนเป็น “ปักดำ” หรือ “โยนกล้า” แทน

7. ใช้สารกำจัดวัชพืชให้ถูกวิธี โดยนาหว่านแห้ง : ไม่ควรใช้สารเคมี ควรใช้วิธีล่อให้งอกแล้วไถกลบแทน ส่วนนาหว่านน้ำตม : ให้ใช้สาร ออกซาไดอะซอน หลังหว่าน 3 วัน อัตรา 500 มล./ไร่ และ โพรพานิล หลังหว่าน 8 –10 วัน และนาปักดำ : ใช้ ไดเมธทีนามิด หลังปักดำ 3 วัน ในอัตรา 100 มล./ไร่ และ โพรพานิล หลัง 10 วัน

8. ลูบรวงข้าววัชพืชด้วยสารเคมีเฉพาะจุด โดยใช้ กลูโฟซิเนต - แอมโมเนียม อัตรา 100 - 200 มล./น้ำ 1 ลิตรลูบช่วงข้าววัชพืชเริ่มออกรวง และตากเกสรไม่เกิน 3 วัน

9. ถอนหรือตัดข้าววัชพืชเป็นระยะ โดยถอนหรือใช้เครื่องตัดหญ้า 3 ครั้ง ในระยะต้นกล้า แตกกอ และตั้งท้องที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้มากกว่า 80%

10. จัดการน้ำในนาอย่างเหมาะสม โดยหากขังน้ำในนาไว้ประมาณ 1 เดือน จะช่วยลดเมล็ดข้าววัชพืชในดินได้ราว 30%

สำหรับขั้นตอนกระบวนการทั้ง 10 ข้อนี้ จะสามารถป้องกันและกำจัดข้าววัชพืชได้ โดยกรมการข้าว จะนำเสนอและประชาสัมพันธ์ข้อมูลเหล่านี้ให้พี่น้องชาวนาได้รับทราบต่อไป โดยเกษตรกรท่านใดมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน่วยงานกรมการข้าวใกล้บ้านท่าน

ขอขอบคุณข้อมูลประกอบโดย : โครงการเทคโนโลยีการจัดการข้าววัชพืชแบบบูรณาการ กองวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว

#กรมการข้าว #ข้าววัชพืช

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top