วันอังคาร ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ซุบซิบกทม.
ปีนี้คนภาคใต้ตั้งแต่ชุมพร ,สุราษฎร์,นครฯ ,สงขลา จรดไปถึง ยะลา,นราธิวาส หลายพื้นที่ต้องจมน้ำ บางอำเภอโดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ทั้งอำเภออ่วมหนัก ซึ่งพื้นที่น้ำท่วมบางจุดมิดศรีษะด้วยซ้ำไป ใจกลางเมืองถนนบางสายน้ำถึงอกและเกินกว่า2เมตร ...วิปโยคครั้งนี้ถ้าจะบอกว่าเกิดนอกฤดูกาลฝนฟ้าหรือไม่ ก็สามารถอธิบายได้ว่านอกฤดูกาล เพราะที่จริงแล้วนับจากนี้ไปอีกราวๆ3-4เดือนข้างหน้าก็เข้าฤดูเก็บเกี่ยวของชาวใต้ แต่ว่าวันนี้ลมฟ้าฝนอากาศมันผิดเพี้ยนสิ้นเชิง และสาเหตุที่ทำให้ธรรมชาติวิปริตกระทบผู้คนทั่วหน้า สิ่งแรกปฎิเสธไม่ได้ คือ เกิดจาก“สัตว์มนุษย์”เป็นปมเหตุใหญ่ที่ทำลายธรรมชาติ จนธรรมชติขาดความสมดุล การตัดไม้ทำลายป่า การเผาป่าเพื่อต้องการที่อยู่อาศัยหรือที่ทำกิน การก่อสร้างกีดขวางทางเดินน้ำ รวมไปถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเกิดอย่างมหาศาลแทบทุกวันทั่วโลก รวมถึงอีกหลายปัจจัยที่เป็นเหตุเป็นผลให้อากาศโดยรวมของโลกเปลี่ยนแปลงผิดเพี้ยน...สำหรับประเทศไทยนั้นการตัดไม้ทำลายป่าและเผาป่า ยังเป็นปัญหาจุกอกแก้ไม่ตก เพราะใช้ปัญญาแก้แบบ“ลูบหน้าปะจมูก ” มีการตื่นตัวกันเป็นพักๆ อันไม่ต่างจาก“กระต๋ายตื่นตูม” สุดท้ายปฎิกริยาดังกล่าวก็จางหายไป แม้แต่รู้ชัดว่าภูเขาถูกยึดครองรัฐฯก็ยัง“บ้าใบ้แบะๆ” ...ดังนั้นเหตุการณ์น้ำท่วมทุกครั้งที่ไม่ใช่ท่วมลักษณะธรรมชาติกำหนดเป็นช่วงฤดูกาลของน้ำท่วม จึงเป็นสิ่งที่ผิดปกติ และเราทุกคนต้องร่วมกันบอกกล่าวเตือนสติให้สังคมช่วยกันตื่นตัวอนุรักษ์ธรรมชาติป่าไม้เอาไว้ให้มากที่สุด ใครก็ตามที่ทำลายธรรมชาติไม่ว่านายทุนหรือคนรับใช้นายทุน เราต้องร่วมกันประณาม และเรียกร้องให้รัฐบาลใช้กฎหมายเฉียบขาดกับปีศาจพวกนี้จริงๆจังๆ อย่าว่าแต่ทางใต้เลยทางเหนือ อิสาน ภูเขาที่เคยปกคลุมด้วยพันธ์ุไม้เมืองร้อนหัวโล้นเป็นทิวแถว อากาศเคยหนาวเย็นอยู่นานวันเป็นไปตามฤดูก็หายสิ้น มีแต่ความร้อนและเกิดพายุฤดูร้อนทำลายบ้านเรือนประชาชนทั้งที่เป็นทาสและไม่เป็นทาสนายทุนสามาลย์ทั่วหน้า...พื้นที่ถูกบุกรุกบางแห่งนายทุนสามาลย์เข้าไปลงทุนล่อลวงให้คนกลุ่มหนึ่งปลูกพืชนั่นนี่ แล้วรับซื้อผลผลิตให้ราคาเล็กๆน้อยๆ จากนั้นไม่นาน นายทุนสกปรกกลุ่มดังกล่าวบางคนก็เข้าครอบครองพื้นที่ บางแห่งก่อสร้างเป็นเรือนพัก หรือแหล่งท่องเที่ยวหาประโยชน์ โดยจ้างคนพื้นที่ดูแล บอกตรงๆทางเหนือหรือพื้นที่อื่นๆใครที่รู้เท่าทันนายทุนอุบาทว์ และหวงแหนรักธรรมชาติอันเป็นธรรมชาติผื้นป่าบริสุทธิ์ย่อมสะเทือนใจๆท่ามกลางที่รัฐฯจัดบริการสนับสนุนตอบสนองไฟฟ้าประปาภูเขาให้ แต่รัฐฯไม่สามารถปกป้องผื้นป่าบนภูเขาถูกบุกรุกไว้ได้ ...ดังนั้นเหตุการณ์ธรรมชาติพิโรจน์ลงโทษไม่ว่าทางภาคใต้-เหนือ-อิสาน หรือ กทม.(อนาคตอันใกล้)นี้ นายทุนอุบาทว์ที่อยู่เบื้องหลังการทำลายธรรมชาติเมื่อเกิดภาวะ“ชะตากรรมชะตาทราม”กับประชาชน พวกมันอยู่ได้ เพราะพวกมันมีศักยภาพเคลื่อนที่เร็ว (มีเงิน)แต่ชาวบ้านทั้งที่ไม่เคยตกเป็นทาส หรือเป็นทาสต่างเดือดร้อนสาหัสเสมอเหมือน...เหตุการณ์น้ำท่วมหนักไม่ว่าที่ไหนภาคใดจึงมีคำถามถึงทุกคนรวมทั้งรัฐบาลว่า เราจะปล่อยให้เกิดเหตุอย่างนี้ซ้ำซากแล้วตั้งหน้าตั้งตาโยนความผิดไปที่ธรรมชาติซึ่งพูดโต้ตอบเป็นภาษา“สัตว์มนุษย์” สัตว์แห่งการทำลายฝ่ายเดียวสืบไปเช่นนี้หรืออย่างไร...
ไผ่ฎำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี