11 พ.ค.61 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ถ้า นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช.ที่บอกว่า กรรมการ ป.ป.ช.จะรับเรื่องคดี 99 ศพ จากการชุมนุมของกลุ่ม นปช.เข้าสู่การพิจารณาภายในเดือน พ.ค.เป็นความจริง ตนก็จะตามดูว่าสุดท้ายมีข้อสรุปอย่างไร แต่ก่อนจะถึงตรงนั้นอยากทบทวนความเข้าใจให้ตรงกันว่า คดีนี้มีมาตรฐานการใช้ดุลยพินิจของ ป.ป.ช.กรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นข้อเปรียบเทียบ ตำรวจใช้แก๊สน้ำตามีคนตาย 2 ศพ ด้วยสาเหตุอื่นอัยการสั่งไม่ฟ้อง ป.ป.ช.ถึงกับจ้างทนายฟ้องเอง แต่คดี นปช.กำลังทหารมีอาวุธสงครามติดกล้องยิงไกล ประกาศเขตกระสุนจริง คนตายเกือบร้อย ป.ป.ช.กลับยกคำร้อง ข้อเท็จจริงนี้เกิดขึ้นแล้ว และกำลังท้าทายเกียรติยศขององค์กร ป.ป.ช.โดยตรง

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ดักคอกันไว้ล่วงหน้าเลยว่า ป.ป.ช.อย่าลักไก่โดยอ้างว่าคำร้องที่ตนยื่นไปไม่มีข้อมูลหลักฐานใหม่ เพราะเราถามมาตลอดว่าสำนวนยกคำร้องรอบแรกอยู่ที่ไหน ทำหนังสือขอไปแล้วหลายรอบเพื่อให้ชัดเจนว่าอะไรคือหลักฐานเก่า จะได้ช่วย ป.ป.ช.รวบรวมหลักฐานชิ้นใหม่แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ มีเสียงกระซิบจากคนรักความเป็นธรรมในสำนักงาน ป.ป.ช.ว่า สำนวนดังกล่าวไม่มีรายละเอียด มีเพียงเอกสารแถลงข่าว 2 ใบ ที่ใช้แจกสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.58 เท่านั้น ฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อว่าทำกันได้ขนาดนี้ มีใครใน ป.ป.ช.กล้ายืนยันหรือไม่ว่าสิ่งที่ตนได้ยินมาไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ คำวินิจฉัยศาลฎีกาไม่ได้ยกฟ้องคดีฆ่า แต่ชี้ว่าเป็นอำนาจของ ป.ป.ช.ทำหน้าที่พนักงานสอบสวน และระบุว่าความผิดคดีฆ่าให้อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย

"ที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินว่า ป.ป.ช.ไต่สวนคดีฆ่า แต่กรณีนี้กลับยกคำร้องคดีบงการฆ่าโดยเจตนาเล็งเห็นผลไปด้วย แม้กระทั่งส่งให้อัยการก็ไม่ทำ เท่ากับ ป.ป.ช.เอาหลักนิติธรรมไปปิดประตูตีแมวหรือไม่ ผมให้เกียรติและยังคงคาดหวังกับ ป.ป.ช.ชุดนี้ว่าจะเลือกยืนอยู่ข้างความถูกต้อง แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละท่านจะให้เกียรติและเคารพในตัวเองหรือไม่ด้วย" นายณัฐวุฒิ กล่าว