ชาวบ้านเชียงคำ-พะเยา สุดทนโรงงานอบผลไม้พ่นพิษ ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน- หน่วยงานในพื้นที่พึ่งไม่ได้ ทำให้เดือดร้อนทั้งน้ำเสีย และส่งกลิ่นเหม็น
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2562 ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมตัวแทนชาวบ้านจากอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบกรณีโรงงานที่ประกอบธุรกิจอบผลไม้แห้ง แปรรูปผลไม้ก่อมลพิษ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องละเลย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบและมีข้อเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และหากหน่วยงานดังกล่าวไม่ปฏิบัติก็ให้ส่งเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารราลงโทษหน่วยงานเหล่านั้น
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านร้องเรียนปัญหาดังกล่าวไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดย อบต.เชียงบาน อำเภอเชียงคำ เคยมีคำสั่งให้โรงงานหยุดประกอบการ แต่ก็หยุดแค่ 7 วันแล้วเปิดตัวใหม่ ก็เกิดปัญหาซ้ำเดิม ล่าสุดไปร้องที่อุตสาหกรรมจังหวัด ทั้งที่มีอำนาจสามารถสั่งปิดได้ตาม พ.ร.บ.โรงงาน แต่ก็กลับมีคำสั่งเพียงให้โรงงานแก้ไขปรับปรุง จึงสงสัยว่า โรงงานเส้นใหญ่ เพราะแทนที่จะถูกจำกัดก็กลับมีการขยายโรงงาน
ด้านน.ส.วราพร อินต๊ะแสน กล่าวว่า ชาวบ้านไม่ได้อยากมาร้องที่นี่ แต่สุดจะทนในพื้นที่มีการซิกแซกเต็มไปหมด ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโรงงานในปี 2548 ชาวบ้านก็ประสบปัญหาถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ มีควันพิษเพราะโรงงานยังใช้ถ่านหินในการอบผลไม้ เมื่อร้องเรียนก็เปลี่ยนมาเป็นฟืน ต่อมาในปี 2553 มีการขอขยายโรงงาน ทำประชาคมหมู่บ้าน ชาวบ้านก็ไม่ยอมรับ แต่อุตสาหกรรมจังหวัดกลับอนุมัติให้ขยายโรงงานได้ และทำให้โรงงานขยายเข้ามาใกล้หมู่บ้านไม่ถึง 200 เมตร จากนั้นชาวบ้านก็ประสบปัญหาน้ำในลำน้ำแวนจากที่สามารถนำมาอุปโภคได้ ก็กลายเป็นสีดำ เพราะโรงงานปล่อยน้ำเสียปลาตาย ไม่มีปลาให้จับ ผักริมน้ำที่เคยเก็บกินได้ก็เก็บไม่ได้
นอกจากนี้ ช่วง2558-2562 มีปัญหาหนักมาก โดยเฉพาะกลิ่นเหม็นที่มาจากบ่อบำบัดน้ำเสียที่เป็นบ่อแบบปิด ทำให้เกิดก๊าช ชาวบ้านจึงห่วงว่าอาจจะเกิดการระเบิดหรือไม่ ร้องเรียนไปที่อุตสาหกรรมจังหวัดก็เพียงสั่งให้โรงงานหยุดอบมะม่วง แต่โรงงานยังสามารถอบลำไยได้อยู่ ทุกวันนี้ช่วงเย็นไม่สามารถเปิดหน้าต่างรับลม ไม่ได้แล้ว เพราะจะมีกลิ่นเหม็นกระจายคุ้มไปทั่วทั้งสองหมู่บ้านที่อยู่ข้างโรงงาน
น.ส.วราพร ยังเปิดเผยว่า ล่าสุดกรมควบคุมมลพิษได้ลงไปเก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจ และทราบเบื้องต้นว่าผลการตรวจพบว่าน้ำในลำห้วยมีสารปนเปื้อน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจริงไหม เพราะต้องเอกสารอย่างเป็นทางการ ประกอบกับหน่วยงานต่างที่ลงไปตรวจสอบก่อนหน้านี้ ก็จะระบุว่าไม่พบอะไรที่เป็นปัญหา อย่างไรก็ตาม ทางผู้ร้องได้แสดงความกังวลในกรณีที่ผู้ตรวจฯจะลงไปตรวจสอบซึ่งจะต้องมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อร่วมตรวจสอบด้วยนั้น เกรงว่าจะมีการจัดฉาก และให้โรงงานเตรียมตัว เพราะที่ผ่านมาเมื่อหน่วยงานใดจะไปตรวจสอบ ทางโรงงานจะขอเวลา 5-7 วันในการเตรียมตัว ซึ่งเมื่อไปตรวจสอบก็จะไม่พบปัญหาใด อีกทั้งหากมีการให้ไกล่เกลี่ยสองฝ่าย ปัญหาก็จะหยุดไปสักพัก แล้วก็จะเกิดปัญหาขึ้นอีก ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเด็ดขาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี